ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ประกาศผลงานปี 58 มีรายได้รวม 12,064.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,953.7 ล้านบาท ผลดีจากการรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART และการรับรู้รายได้ต่างๆ จากการเข้าซื้อกิจการ HEMRAJ ด้านผู้บริหาร เตรียมรีแบรนดิ้งธุรกิจทั้งกรุ๊ป เร่งการขยายธุรกิจ พร้อมประกาศลุย 4 Hubs มั่นใจปีนี้ ตั้งเป้ารายได้แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท
น.ส.จรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า-ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมียม เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2558 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 12,064.1 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,953.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 138.5% ทั้งนี้ เนื่องจากบริษัทฯ มีการรับรู้รายได้ค่าเช่า ค่าบริการ และค่าสาธารณูปโภค ตลอดจนรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมจากการเข้าซื้อกิจการของ HEMRAJ ประกอบกับการรับรู้รายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ และสิทธิการเช่า ดับบลิวเอชเอ พรีเมียม โกรท หรือ WHART เพิ่มทุน (ครั้งที่ 1) ในมูลค่า 4,645.9 ล้านบาท ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดย WHA สามารถรับรู้เป็นรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน จำนวน 4,485.6 ล้านบาท ภายหลังการหักส่วนของรายได้ที่ไม่สามารถรับรู้ได้จากการค้ำประกันรายได้ให้แก่ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART จำนวน 160.3 ล้านบาท ตลอดจนการเติบโตของรายได้ค่าเช่า และค่าบริการของบริษัทฯ เอง
ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวม 8,809.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,784.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,057.5% จากการรับรู้รายได้และกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์ WHART การรับรู้รายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของ HEMRAJ ตลอดจนค่าเช่าที่เติบโตเพิ่มขึ้นจากการให้เช่าพื้นที่คลังสินค้า และศูนย์กระจายสินค้าที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเกิดจากยอดจองพื้นที่เช่า (Pre-Leased/New Contract Area) ที่เพิ่มขึ้น 200,000 กว่าตารางเมตร โดยเป็นฐานลูกค้าเดิมที่ต้องการขยายพื้นที่เช่า ไม่ว่าจะเป็นผู้เช่าที่เป็นต่างชาติ และบริษัทไทยชั้นนำ และลูกค้าใหม่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคที่ใช้แล้วหมดไปอย่างรวดเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) และผู้ให้บริการด้านลอจิสติกส์ (3PL) อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และรองประธานกรรมการ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 2559 ว่า ภายหลังจากการปรับแผนโครงสร้างองค์กรใหม่ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/2559 นี้ บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำธุรกิจในเอเชียภูมิภาคอาเซียนทางด้านการพัฒนาอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า โรงงาน (Logistics Facilities) ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมแบบครบวงจร สาธารณูปโภค พลังงาน และการให้บริการระบบฐานข้อมูลดิจิตอล ด้วยคุณภาพที่ครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ที่จะตอบโจทย์ต่อแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และการสร้างจุดยืนของประเทศไทยที่ต้องการเป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) และพร้อมที่จะขยายธุรกิจด้วยโครงสร้างธุรกิจให้บริการครบวงจรไปยังประเทศในภูมิภาค โดยประเทศที่มุ่งเน้นเป็นลำดับแรก ได้แก่ เวียดนาม ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และการติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ทั้งนี้ ภายหลังการปรับโครงการองค์กรแล้ว โครงสร้างธุรกิจของบริษัทฯ จะมีความหลากหลายมากขึ้น และเป็นผู้ให้บริการครบวงจรในการให้บริการทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ในระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนการบริหารคลังข้อมูลดิจิตอล (data center) ที่ครบวงจร ทั้งด้านการวางระบบฐานข้อมูล และบริการเสริมต่างๆ ให้เหมาะสมต่อความต้องการของลูกค้า โดยเบื้องต้น บริษัทฯ วางแผนจะเป็นผู้นำธุรกิจในการให้บริการ 4 Hubs ซึ่งประกอบด้วย Logistic Hub, Industrial Hub, Utility & Power Hub และ Digital Hub ซึ่งหากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวสำเร็จจะส่งผลให้ WHA เป็น Real Sector ที่ครบวงจรแห่งแรกของโลก
“โดยในไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าการปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ รวมทั้งการรีแบรนดิ้งธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งหมด เพื่อให้ตรงต่อวิสัยทัศน์ (Vision) และพันธกิจ (Mission) หลักของบริษัทฯ ทำให้ธุรกิจของ WHA Group มีความหลากหลาย และสามารถครอบคลุมการให้บริการในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ” น.ส.จรีพร กล่าว
พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังเตรียมขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) เดิม WHART ในช่วงปลายปีนี้เพิ่ม ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มขนาดของทรัพย์สินในกองให้มีมูลค่าสูงขึ้น และเป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทเพื่อขยายกิจการ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT โดยการขายอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ได้แก่ โรงงาน และคลังสินค้าสำเร็จรูปให้เช่าที่อยู่ในนิคมอุตสาหกรรม HEMRAJ และพื้นที่โดยรอบ เพื่อจัดตั้งกองทรัสต์ HREIT ภายในไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 นี้
ดังนั้น จากแผนขยายธุรกิจในข้างต้นจึงส่งผลให้บริษัทฯ มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2559 จะเป็นการรับรู้รายได้จาก HEMRAJ อย่างชัดเจน รวมถึงการขยายแผนเชิงรุกในการพัฒนาด้านลอจิสติกส์ และนิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น