xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์แนะเอกชนไทยปรับกลยุทธ์เพื่อรับกระแสเงินลงทุนจากจีน พร้อมโฟกัสภาคธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธ.ไทยพาณิชย์ แนะเอกชนไทยปรับกลยุทธ์เพื่อรับกระแสเงินลงทุนจากจีน มองแนวโน้มธุรกิจอาหาร-บริการ มีโอกาสเติบโตสูงสุด ชี้นักท่องเที่ยวจีนนิยมมาไทย โดยปีก่อนเข้ามาถึง 10 ล้านคน ชี้ชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง นิยมการชอปปิ้ง ดังนั้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง

ผู้อำนวยการอาวุโสกลยุทธ์ธุรกิจและอุตสาหกรรม ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบันอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนจะเติบโตในอัตราที่ชะลอลง แต่บทบาทของจีนในเวทีโลกจะมีความสำคัญมากขึ้น โดยต้องจับตามองในเดือนมีนาคมนี้ ที่จีนจะเปิดเผยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 13 ระยะ 5 ปี (2559-2563) ซึ่งตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจจีนเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 6.5 ต่อปี เพื่อที่จะทำให้อัตราการขยายตัวต่อประชากรเพิ่มเป็น 2 เท่าได้ทันภายในปี 2563

ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่า จีนจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงระดับโลกใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านแรก จีนจะขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศมากขึ้น เห็นได้จากการรวมกิจการในต่างประเทศของจีนมีแนวโน้มขยายตัวสูงในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา มีการขยายตัวร้อยละ 55 และธนาคารไทยพาณิชย์ คาดการณ์ว่า ไทยจะเป็นเป้าหมายที่จีนจะเข้ามาลงทุนทั้งในรูปการซื้อกิจการ หรือเข้าร่วมลงทุน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอาหาร ยางล้อรถยนต์ ธุรกิจที่มีนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อผลิตสินค้าส่งกลับไปขายในประเทศจีน

ด้านที่สอง คือ จีนกำลังเพิ่มจำนวนของผู้มีรายได้ปานกลางเป็น 109 ล้านคน ซึ่งนับว่ามากที่สุดในโลกที่มีกำลังซื้อมหาศาล ซึ่งถือเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทยที่จะเข้าไปเจาะตลาดในจีน โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเด็ก และผู้สูงอายุ มีแนวโน้มเติบโตได้ดีจากการเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และการยกเลิกนโยบายลูกคนเดียว ซึ่งแนะนำผู้ประกอบการรุกการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ (อีคอมเมิร์ซ) ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะผู้บริโภคชาวจีนกำลังนิยมซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น

ขณะเดียวกัน ควรหลีกเลี่ยงการลงทุนในอุตสาหกรรมหนัก ก่อสร้าง อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน เพราะจีนกำลังปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจมาเน้นการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก

นอกจากนี้ ยังไม่ควรมองข้ามธุรกิจท่องเที่ยว และบริการ ซึ่งชาวจีนเข้ามาเที่ยวเมืองไทยในปี 2558 ถึง 10 ล้านคน ซึ่งชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง นิยมการชอปปิ้ง ดังนั้น เป็นโอกาสของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยวควรเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้สอดคล้องต่อพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน

ด้านสุดท้าย จีนจะยกระดับจากการเป็นโรงงานของโลก มาเป็นผู้นำนวัตกรรม และเทคโนโลยีระดับสูง โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2568 เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยี นวัตกรรมโลก เพื่อเพิ่มบทบาทการค้าการลงทุนในเวทีโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจีนสามารถสร้างรถไฟวิ่งด้วยความเร็วสูงที่สุด และระยะรางยาวที่สุดในโลก ซึ่งรัฐบาลจีนก็สนับสนุนงบกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ในการพัฒนานักวิจัย ดังนั้น รัฐบาล และผู้ประกอบการไทยต้องจับกลุ่มคลัสเตอร์เพื่อต่อยอดธุรกิจจากจีน

นอกจากนี้ จีนยังผลักดันเงินหยวนเข้าสู่ตะกร้าเงินโลก ทำให้เงินหยวนของจีนมีบทบาททางการค้าโลกมากขึ้น และมีแนวโน้มที่อ่อนค่าตามเงินสกุลของตลาดเกิดใหม่
กำลังโหลดความคิดเห็น