“ซีพีแลนด์” เดินหน้าขยายอาณาจักร ย้ำกรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทย แต่ทั่วประเทศ คือ ประเทศไทย ชี้ไม่ลงทุนวันนี้ วันข้างหน้าก็ไม่มี ระบุแผน 3 ปี ลงทุนเพิ่มหมื่นล้านพัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร เน้นบุกหัวเมืองใหญ่รองรับธุรกิจขยายตัวรับเออีซี คาดสิ้นปีนี้มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3 หมื่นล้านบาท
นายสุนทร อรุณานนท์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซี.พี.แลนด์ จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ให้มุมมองต่อการลงทุนของซี.พี.แลนด์ ว่า ได้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์มายาวนานกว่า 33 ปี ทั้งอสังหาฯ เพื่อเช่าและบริการ อสังหาฯ เพื่อขาย ด้านงานบริหารทรัพยากรอาคาร ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า นิคมอุตสาหกรรม โดยในปี 59 นี้ ทางซี.พี.แลนด์ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของจังหวัดต่างๆ ในภูมิภาคที่เป็นใจกลางย่านเศรษฐกิจ มีศักยภาพการเจริญเติบโต รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ศักยภาพ และแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงสภาวะสังคมที่กำลังเตรียมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อย่างเต็มตัว จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเตรียมพร้อมสร้างรากฐานเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง เพื่อรองรับการเติบโตที่จะมีขึ้นในอนาคต
“33 ปี ที่ทำธุรกิจเกี่ยวต่ออสังหาฯ สอนให้เราทำอะไรมองระยะยาว มองไปข้างหน้า เรามีสินทรัพย์ที่มีคุณค่า มีที่ดินรองรับพัฒนาโครงการได้ถึง 2 ปี แม้ว่าเราเคยมรสุมมาหลายครั้ง แต่เราก็ผ่านพ้นมาได้ ธุรกิจโรงแรมเหมือนธุรกิจอาคารสำนักงาน ที่ต้องลงทุนระยะยาว แต่ทำไมต้องลงทุน เพราะเราต้องลงทุน และพัฒนาบุคลากร และการที่เรารุกไปต่างจังหวัดก็เพราะเรามองว่า กรุงเทพฯ ไม่ใช่ประเทศไทย แต่ทั่วประเทศ คือ ไทย เราต้องไปที่อื่นที่คนยังไม่ไปกัน เราต้องสร้างคน เพราะฐานของ ซี.พี.แลนด์ คือ คน อีกทั้งหากเราไม่ลงทุนวันนี้ วันข้างหน้าเราก็ไม่มี” นายสุนทร กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินงานระยะ 3 ปี คือ 2559-2561 บริษัทได้ตรียมความพร้อมลงทุนเพิ่ม 10,000 ล้านบาท ในโครงการคอนโดมิเนียม โรงแรม คลังสินค้า สำนักงานให้เช่า นิคมอุตฯ สีเขียว ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด โดยเฉพาะหัวเมืองใหญ่ๆ เช่น จังหวัดขอนแก่น อุดรธานี และตาก เป็นต้น เพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และรองรับAEC อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 นี้ บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 30,000 ล้านบาท จากที่คาดว่าปลายปี 58 จะมีทรัพย์สิน 20,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่า โดยที่จะมีการพัฒนาโครงการในปีนี้ 10 โครงการได้แก่ อาคารสำนักงาน ซี.พี.ทาวน์เวอร์ นอร์ทปาร์ค กรุงเทพฯ พื้นที่ใช้สอยรวม 40,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) มูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท ที่เหลืออีก 9 โครงการ เป็นโครงการที่ได้เริ่มการพัฒนาแล้ว และบางโครงการได้เปิดทำการ และส่งมอบเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งกระจายอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น 3 โครงการ พิษณุโลก นครราชสีมา และอุดรธานี
ในส่วนของอสังหาริมทรัพย์เพื่อบริการ บริษัทมีแผนพัฒนาโรงแรมให้ครบ 10 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท ภายในปี 2560 โดยในปลายปีนี้มีแผนเปิดให้บริการ โรงแรม ฟอร์จูนดี แม่สอด และในปี 2560 มีแผนจะเปิดโรงแรม ฟอร์จูนดี เขาใหญ่ โรงแรม ฟอร์จูนดี บุรีรัมย์ โรงแรม ฟอร์จูนดี เลย และโรงแรม ฟอร์จูนดี นครราชสีมา นอกจากนี้ ในปี 2560 บริษัทมีแผนเปิดตัว และให้บริการศูนย์ประชุมและแสดงสินค้า ในจังหวัดขอนแก่น บนพื้นที่กว่า 26 ไร่ พื้นที่ใช้สอย 26,000 ตร.ม. สามารถรองรับผู้เข้ามาใช้บริการได้รวม 7,000 ที่นั่ง ด้วยงบลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท
“ภูมิศาสตร์ของไทยมีความเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อทางเศรษฐกิจของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งจากนโยบายของภาครัฐดึงงานเข้าประเทศ โดยส่งเสริมให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานกิจกรรมทางธุรกิจนานาชาติ ซึ่งกำหนด 5 เมืองหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต และขอนแก่น ให้เป็นไมซ์ซิตี บริษัทจึงได้เห็นโอกาสทาวธุรกิจ จึงได้เข้ามาพัฒนาศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าในขอนแก่น” นายสุนทร กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ซี.พี. ในจังหวัดระยอง บนพื้นที่รวมกว่า 3,068 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลมาบข่า ตำบลนิคมพัฒนา และตำบลหนองละลอก ซึ่งจะมีการแบ่งการพัฒนาออกเป็นพื้นที่อุตสาหกรรม 2,244 ไร่ พื้นที่พาณิชยกรรม 112 ไร่ พื้นที่ระบบสาธารณูปโภค 401 ไร่ พื้นที่สีเขียวและแนวกันชน 309 ไร่ โดยนิคมอุตสาหกรรม ซี.พี. ในจังหวัดระยอง เจาะ 5 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและชิ้นส่วน กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ขิ้นส่วนรถยนต์และผลิตภัณฑ์โลหะแปรรูป และกลุ่มอุตสาหกรรมแปรรูปเกษตรและผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวิมวล
นายสุนทร กล่าวเพิ่มเติมถึงโอกาสการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะ CLMV ใน 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว พม่า และเวียดนาม ว่า มีพันธมิตรนักลงทุนท้องถิ่นติดต่อซีพีแลนด์ เข้าไปดูลู่ทางลงทุนในช่วงที่ผ่านมา ภายในกลางปีนี้คาดว่าบริษัทสามารถเปิดตัวบริษัทร่วมทุนพัฒนาโครงการในกรุงย่างกุ้ง พม่า เป็นประเทศแรก รูปแบบโครงการจะเป็นโรงแรม และสำนักงานให้เช่า มูลค่าลงทุนเกือบ 1,000 ล้านบาท