“ดอน” ปูดม็อบประท้วงคดีเกาะเต่าบางจุดถูกจัดตั้งแน่ ยัน “มิน อ่องหล่าย” กดดันไม่เป็นผล

แนะรัฐสอบเบื้องหลังม็อบคดีเกาะเต่า เหยื่อทางการเมืองหรือไม่ “ยะใส” เชื่อจงใจก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างไร้มารยาท ชี้ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อนในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน ด้าน รมว.ต่างประเทศห่วงบานปลาย ปูด! บางจุดถูกจัดตั้งแบบไม่ปกติยัน “ผบ.สส.พม่า” กดดันผ่านสังคมออนไลน์ไม่เป็นผล ไม่มีประเทศไหนที่จะหยุดกระบวนการยุติธรรมกลางทาง ขอรัฐบาลพม่าสกัดก่อนขยายผล

วันนี้ (28 ธ.ค.) มีรายงานว่า นายสุริยะใส กตะศิลา อาจารย์วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และผู้อำนวยการสถาบันปฏิรูปประเทศไทย เขียนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเรียกร้องให้มีการตรวจสอบเบื้องหลังม็อบคดีเกาะเต่า กรณีที่ยังมีชาวพม่าชุมนุมประท้วงต่อคำตัดสินคดีของศาลจังหวัดเกาะสมุยที่ให้ประหารชีวิตผู้ต้องหาชาวพม่า 2 คนในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี หัวเรื่อง “ต้องตรวจสอบเบื้องหลังม็อบคดีเกาะเต่า!”

โดยมีใจความว่า “ออกจะออฟไซด์ไปสำหรับบทบาทของ พล.อ.มิน อ่องหล่าย ผบ.สส.พม่า ที่ออกมาทักท้วงคำพิพากษาประหารชีวิตชาวพม่าในคดีเกาะเต่าโดยยังไม่เคยอ่านคำพิพากษา ถือเป็นการจงใจก้าวล่วงกระบวนการยุติธรรมไทยอย่างไร้มารยาทซึ่งไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อนในประเทศเพื่อนบ้านและอาเซียน อันที่จริงเราสามารถวิจารณ์คำพิพากษาศาลได้ถ้ากระทำโดยสุจริตใจและเป็นเหตุผลมีความเป็นวิขาการ แต่ไม่ใช่ท่าทีแบบ “กรูไม่เห็นด้วยซะอย่าง มีอะไรมั้ย” ที่สำคัญคดีนี้ยังไม่จบ ยังเหลืออีก 2 ศาล จำเลยยังมีสิทธิทางศาลอีกนานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง หรือสิทธิในการขอพระราชทานอภัยโทษก็ยังมี

แม้นผมจะเชื่อว่าชาวพม่าที่มาชุมนุมหลายคนมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่ก็อดเป็นห่วงกับการผสมโรงเสี้ยมของกลุ่มคนที่มักคิดว่าตัวเองถูกศาลต่างหากที่ผิดและออกมาโจมตีศาล ชุมนุมประท้วงหน้าศาล กระทั่งยิง M79 ถล่มศาลก็มีมาแล้ว เอ๊ะ! หรือว่าเบื้องหลังเป็นคนเครือข่ายเดียวกัน ที่สำคัญมีการแชร์ภาพทางโซเชียลมีเดีย ถึงคนพม่าบางคนที่ทำหน้าที่ปลุกม็อบ กับภาพใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อกับอดีตนายกฯ ไทยบางคน และเจ้าตัวก็ไม่เห็นออกมาปฏิเสธใดๆ เลยชักสงสัยว่าเบื้องหลังม็อบนี้ใช้จำเลยคดีข่มขืนเกาะเต่าเป็นเหยื่อทางการเมืองหรือไม่ ชักสงสัยขึ้นมาในบัดดล เห็นทีรัฐบาลไทยต้องเร่งตรวจสอบเบื้องหน้าเบื้องหลัง และชี้แจงถึงขั้นตอนกระบสนการยุติธรรมไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยองศาลไทย ก่อนลุกลามขยายผลกระทบความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับพม่าในที่สุด”

ด้านนายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานทางการทูตกับกระทรวงการต่างประเทศของพม่าให้ช่วยดูแลไม่ให้เกิดการขยายขอบเขตการประท้วงจนเกิดการบานปลาย เนื่องจากปัจจุบันเห็นว่าการประท้วงเริ่มขยายตัวไปยังจุดอื่นนอกกรุงย่างกุ้ง และมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าไม่ส่งผลอะไร แม้ พล.อ.อาวุโส มิน อ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าจะขอให้ทบทวนหลักฐานและคำตัดสินในคดีนี้ เนื่องจากไม่มีประเทศไหนที่จะหยุดกระบวนการยุติธรรมกลางทาง จึงขอให้เป็นไปตามขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์ต่อไป

ส่วนกรณีนี้จะมีผู้ฉวยโอกาสนี้ไปขยายผลจนเกิดการต่อต้านประเทศไทยในเรื่้องอื่นๆ ด้วยหรือไม่นั้น รมว.ต่างประเทศกล่าวว่า เมื่อมีคนจำนวนมากมาประท้วงก็ไม่สามารถระบุได้ทั้งหมดว่ามีวัตถุประสงค์อะไร ซึ่งบางแห่งก็พอมองออกว่าเป็นการจัดตั้งแบบไม่ปกติ เมื่อถามถึงการดูแลความปลอดภัยของคนไทยในเมียนมา นายดอนกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง โดยฝ่ายไทยมีการประสานงานกับทางการพม่าให้ดูแลต่อเนื่อง