คณะทำงานคดีฆาตรกรรม 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า แถลงทุกขั้นตอนโปร่งใสตรวจสอบได้ แฉมีกลุ่มคนคอยปลุกปั่นหวังกระทบต่อความสัมพันธ์ ย้ำอย่าหลงเชื่อ ส่วน ผบ.พล.ร.9 แจงยังมีศาลอุทธรณ์-ศาลฏีกา ผบ.สส.เมียนมาขอไทยทบทวน ขณะที่ชาวเมียนบางพื้นที่ยังประท้วง ล่าสุดประกาศปิดแผนกกงสุลในย่างกุ้ง
กรณีเหตุชุมนุมประท้วงของชาวเมียนมา ซึ่งไม่พอใจการตัดสินของศาล จ. เกาะสมุย ที่สั่งให้ประหารชีวิต 2 นักโทษเมียนมาในคดีข่มขืนฆ่าชาวอังกฤษที่เกาะเต่า วานนี้ (27 ธ.ค.) เมื่อเวลา11.30 น. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ปิงเมือง รองโฆษก ตร. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. พล ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (ผบช.สพฐ.ตร.) พล.ต.ต. อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองต่างประเทศ (ผบก.ตท.) พล.ต.ต.พรชัย สุธีรคุณ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา (ผบก. นต.) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) พ.ต.อ. สันติ ชัยนิรามัย ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม(ผกก. 4 บก.ป.) พ.ต.อ.ประชุม เรืองทอง ผู้กำกับการสถานีภูธรเกาะพะงัน (ผกก.สภ.เกาะพะงัน) ร่วมกันแถลงชี้แจงกระบวนการและขั้นตอนการดำเนินคดี
พล.ต.อ.เดชณรงค์ กล่าวว่า ทีมโฆษก ตร. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้มาชี้แจงต่อสื่อมวลชนผ่านไปยังประชาชนเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องโดยตำรวจยืนยันว่ากระบวนการยุติธรรมที่ผ่านมาตั้งแต่เกิดเหตุเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้เป็นไปตามมาตรฐานสากลและมีผู้สังเกตการณ์จากนานาประเทศเข้าร่วมโดยเฉพาะการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดจากประเทศอังกฤษซึ่งมีมาตรฐานเรื่องการสืบสวนสอบสวนและเป็นประเทศผู้เสียหายอีกด้วย
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุสำนักงานตำรวจแห่งชาติในตอนนั้นก็ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนชุดใหญ่ขึ้นมาเพื่อดูแลคดีนี้ โดยมี พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุดอย่างไรก็ตามก็ยังมีบุคคลบางกลุ่มยังไม่เข้าใจจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องชี้แจงต่อสื่อมวลชนตามลำดับ
พ.ต.อ.ประชุม กล่าวว่า ขอชี้แจงถึงบทบาทของพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้โดยทีมสอบสวนได้ร่วมทำคดีตั้งแต่ได้รับแจ้งเหตุเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2557 จึงลงไปตรวจสอบในพื้นที่ที่เกิดเหตุเก็บรวบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุทุกส่วนตามขั้นตอนและได้นำพยานในที่เกิดเหตุทั้งพยานวัตถุ พยานบุคคลเข้าสู่กระบวนการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้อัยการกระทั่งมีการพิสูจน์ในชั้นศาลออกมาจึงขอยืนยันว่าพนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่างโดยคดีนี้มีเป็นคดีร้ายแรงและมีผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติมีอัตราโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิตซึ่งตามกฎมายต้องให้ทนายความและล่ามแปลภาษาร่วมสอบสวนทุกขั้นตอน
พล.ต.ต.อภิชาติ เปิดเผยว่า ประเทศเมียนมากับไทยมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอยู่แล้วเช่นเดียวกันประเทศอังกฤษก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับไทยการดำเนินการของทางการไทยจึงต้องเป็นไปอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
พล.ต.ต.พรชัย กล่าวว่า ตอนที่สถาบันนิติเวชได้รับศพผู้ตายมาก็ได้มีการตรวจสอบโดยละเอียดเพื่อพิสูจน์ดีเอ็นเอซึ่งเราได้พบว่ามีดีเอ็นเอแปลกปลอมอยู่ในร่างกายศพทั้ง 2 รายในจุดสำคัญของร่างกายเราจึงได้เก็บดีเอ็นเอนั้นเอาไว้เพื่อใช้เป็นโปรไฟล์ตั้งต้นเพื่อนำดีเอ็นเออื่นๆมาตรวจเทียบเคียงซึ่งยืนยันว่าทุกขั้นตอนเป็นไปตามหลักสากลถูกต้องและเราได้หลักฐานจากผู้เสียชีวิตมาทั้งหมดเพื่อใช้เทียบเคียงกับหลักฐานวิทยาศาสตร์จากผู้ต้องหาโดยทุกกระบวนการตรวจสอบมีมาตรฐานของห้องปฏิบัติการควบคุมอยู่และทั่วโลกรับรองมาตรฐานนี้ซึ่งต่างชาติก็พอใจการทำงานครั้งนี้ของไทย
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์ตอนนี้พบว่ามีคนบางกลุ่มบางพวกได้นำสถานการณ์หลังศาลมีคำพิพากษาคดีนี้ไปปลุกระดมผู้คนออกมาชุมนุมต่อต้านคำตัดสินของศาลขึ้นทางรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติจึงเป็นห่วงอย่างยิ่งว่ามันจะบานปลายกระทบไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศดังนั้น ทางทีมโฆษก ตร. จึงต้องการสื่อไปถึงประชาชนทุกคนว่าอย่าตกเป็นเหยื่อของคนกลุ่มนี้พร้อมกันนี้ตนอยากขอร้องกลุ่มที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในตอนนี้ว่าโปรดอย่านำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นทางการเมืองเพราะเรื่องนี้เป็นเพียงคดีฆาตกรรมที่เป็นคดีของปัจเจกบุคคลไม่อยากให้นำมาโยงกับเรื่องการเมืองอย่างที่กำลังทำอยู่
"ระบบยุติธรรมของประเทศไทยเป็นระบบกล่าวหาจึงมีการถ่วงดุลตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนแล้วมันจึงต้องเป็นธรรมและเมื่อการสอบสวนเสร็จสิ้นก็จะถึงชั้นพนักงานอัยการซึ่งก็มาถ่วงดุลพนักงานสอบสวนอีกชั้นหนึ่งเพราะตำรวจที่เป็นพนักงานสอบสวนทั้งหมดจะไม่ใช่ผู้กล่าวหาแต่จะกลายเป็นพยานขณะที่อัยการจะเป็นโจทย์แทนเพื่อนำฟ้องต่อศาลเมื่อถึงศาลศาลก็ทำการไต่สวนใหม่อีกรอบหนึ่ง และยังมีอีก 3 ศาลทั้งศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาจึงขอยืนยันว่ากระบวนการสอบสวนของเราไม่มีการเบี่ยงเบนได้แน่นอนอีกทั้งการสอบสวนคดีนี้ชัดเจนมากเพราะเป็นการพิจารณาตัดสินจากหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งสากลยอมรับและโกหกกันไม่ได้" รอง โฆษก ตร. กล่าวและว่าและวันนี้กระบวนการยุติธรรมเดินมาถึงขั้นสุดท้ายที่ศาลแล้วจึงไม่อยากให้ต่อยอดมาสู่เหตุการณ์ทางการเมืองนำมาซึ่งการชุมนุมก่อการประท้วงกันขึ้น
พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวต่อว่า ในรอบปี 2558 ที่ผ่านมามีคดีที่ชาวเมียนมาในประเทศไทยกระทำความผิดในข้อหาฆ่าผู้อื่นมากถึง 126 คดีจึงอยากตั้งคำถามว่าทำไมคดีพวกนี้ไม่มีใครออกมาต่อต้านหรือประท้วงจึงน่าสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคดีนี้แสดงว่ามีการก่อเหตุประเภทนี้จำนวนมากแต่กลับไม่มีใครออกมาแต่พอมาคดีนี้กลับมีการต่อต้านขึ้นจึงเป็นไปได้ว่าจะเป็นความพยายามออกมาเคลื่อนไหวของคนบางกลุ่มหรือไม่ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องตรวจสอบสืบสวนหาข่าวในเชิงลึกหากพบมีใครเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีต่อไป
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อเรียกร้องให้รื้อคดีนี้ขึ้นมาใหม่จะเป็นไปได้หรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ กล่าวว่า คงไม่สามารถรื้อคดีให้มีการสืบสวนสอบสวนคดีนี้ได้อีกเพราะตามกฎหมายของไทยไม่สามารถทำได้แต่ยืนยันกระบวนการยุติธรรมของไทยได้มาตรฐานสากลเป็นที่ยอมรับทั่วโลกและหลักฐานทั้งหมดก็เป็นหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ไม่สามารถโกหกได้ดีเอ็นเอน่าเชื่อถือกว่าคำให้การของคนอีกทั้งคนไทยพอไปกระทำผิดในต่างประเทศก็ใช้กระบวนการยุติธรรมของประเทศนั้นๆ ตัดสินเช่นกัน
*** ผบ.พล.ร.9แจงยังมีศาลอุทธรณ์-ฏีกา
พล.ต.ธรรมนูญ วิถี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (ผบ.พล.ร.9) เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่าชาวเมียนมา ฝั่งพญาตองซู ตรงข้ามด่านชายแดนเจดีย์ 3 องค์ จะการรวมตัวประท้วง เชิงสัญลักษณ์ เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 26-28 ธ.ค. นี้ โดยในวันนี้มีรายงานว่านัดหมายรวมตัวกันเวลาประมาณ 10:00 น. แต่จนถึงขนาดนี้ยังไม่พบความเคลื่อนไหวใดๆ อย่างไรก็ตามในวันนี้ทางด่านฝั่งเมียนมาได้ปิดทำการไม่อนุญาตให้คนไทยหรือนักท่องเที่ยวข้ามฝั่งไปยังฝั่งพญาตองซู แต่ในส่วนของฝั่งไทยเปิดด่านตามปกติ
“ในวันพรุ่งนี้จะให้ทหารช่วยไปทั้งความเข้าใจ และชี้แจงแรงงานเมียนมาที่ทำงานอยู่ในฝั่งไทย ถึงขั้นตอนกระบวนการยุติธรรมของไทยว่าแม้ศาลจะตัดสินประหารชีวิต แต่เป็นเพียงศาลชั้นต้นยังเหลือศาลอุทธรณ์และศาลฎีกา ดังนั้นขอให้ใจเย็น” ผบ.พล.ร. 9 กล่าว
เช่นเดียวกับนายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในการพิพากษาคดีของศาลจังหวัดเกาะสมุย ซึ่งเป็นศาลชั้นต้นนั้น ได้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดีตามพยานหลักฐานในสำนวน ซึ่งหลังจากมีคำตัดสินแล้ว ศาลยุติธรรม ได้จัดทำสรุปคำพิพากษาทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเผยแพร่สู่สาธารณชน เพื่อให้ตรวจสอบได้ และสาธารณชนยังสามารถตรวจสอบรายละเอียดได้จากคำพิพากษาฉบับเต็มด้วยว่า การพิจารณาศาลได้วินิจฉัยประเด็นใดบ้าง
“ ในชั้นพิจารณาจำเลย มีทนายความดูแลคดีตามกฎหมายและศาลชั้นต้น ได้พิจารณาพยานหลักฐานตามสำนวนครบถ้วน ขณะที่คำพิพากษาคดียังไม่สิ้นสุด เพียงแค่ศาลชั้นต้นนี้ เพราะตามกฎหมายจำเลย สามารถยื่นอุทธรณ์คดีได้ ภายใน 30 วัน นับจากวันที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา และถ้าคดีจะถึงที่สุดในชั้นฎีกาตามขั้นตอนของกฎหมายแล้ว จำเลยอาจยื่นขออภัยโทษต่อไป ซึ่งสามารถยื่นได้ตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา”
***ผบ.สส.เมียนมาวอนไทยทบทวนคำตัดสิน
ด้านพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา เปิดเผยผ่านเว็บไซต์เฟซบุ๊คส่วนตัว ว่า ได้ส่งข้อความอวยพรเนื่องในโอกาสปีใหม่ ให้กับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของไทย ขณะเดียวกันตนได้เรียกร้องให้ทางการไทยทบทวนหลักฐานและคำตัดสินในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี ที่ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตแรงงานชาวเมียนมา 2 คน โดยตนเคารพในกระบวนการยุติธรรมของไทย แต่สิ่งที่สำคัญคือการหลีกเลี่ยงการตัดสินที่อาจลงโทษผู้บริสุทธิ์ ทั้งนี้ตนหวังว่าความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้บนหลักความร่วมมือทวิภาคี และหลักการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างประเทศไทยกับเมียนมา.
***เมียวดี-เกาะสองยังรวมตัวชุมนุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (27 ธ.ค.) ชาวเมียนมา ที่จังหวัดเมียวดี ตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 20 คน รวมตัวกันที่ตลาดบุเรงนอง ตัวเมืองเมียวดี พร้อมถือรูปผู้ต้องโทษชาวเมียนมา 2 คน ที่ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต ก่อนที่จะชูป้ายเดินไปในตัวเมืองเมียวดีด้วย
ต่อมานายอูหลั่วกัวอู ผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี ได้ชี้แจงทำความเข้าใจ จนผู้ชุมนุมยอมสลายตัวเดินทางเข้าวัดเจดีย์ทอง เพื่อร่วมกันทำบุญสวดสะเดาะเคราะห์ให้กับ 2 ผู้ต้องโทษชาวเมียนมา ให้หลุดพ้นเคราะห์กรรม
อย่างไรก็ดี ชาวบ้านเมียนมา จ.เกาะสอง นัดรวมตัวประท้วง ในวันที่ 29 ธ.ค.นี้ โดยเครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา ที่ทำงานใน จ.ระนอง เปิดเผยว่า ทางเครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาใน จ.ระนอง ได้รับการประสานจากชาวบ้านชาวเมียนมาใน จ.เกาะสอง ว่า จะมีการนัดหมายรวมตัวประท้วงเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของศาลไทย
ปัจจุบันการนัดรวมตัวของชาวเมียนมานั้นจะต้องมีการยื่นคำขออนุญาตต่อรัฐบาลกลาง ซึ่งปรากฏว่าได้รับการอนุญาตในวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ทางแกนนำชาวบ้านชาวเมียนมาใน จ.เกาะสองจึงแจ้งมายังเครือข่ายแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาใน จ.ระนอง ก่อนจะมีการยื่นหนังสือต่อ ผวจ.เกาะสองเพื่อส่งต่อให้กับผู้ว่าราชการระนองในการส่งต่อรัฐบาลไทย
ด้านเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานชายแดนไทย-เมียนมา ประจำจังหวัดระนอง-เกาะสอง แจ้งว่า ได้รับแจ้งเรื่องการนัดรวมตัวของชาวบ้านชาวเมียนมาที่ จ.เกาะสองในวันที่ 29 ธ.ค.นี้แล้ว ซึ่งทางศูนย์ได้แจ้งให้หน่วยงานด้านความมั่นคงฝ่ยไทยได้รับทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่เมียนมาให้ดูแลความปลอดภัยของชาวบ้านคนไทยในฝั่งประเทศเมียนมาด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา มีประกาศปิดให้บริการแผนกกงสุล ระหว่างวันที่ 28-30 ธ.ค. 58 .