xs
xsm
sm
md
lg

ธนพิริยะ เปิดสาขาใหม่ 3 แห่ง ดันรายได้ปี 59 โต 10-15%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ธนพิริยะ คาดปี 59 เติบโตดีหลังยอดขายทั้ง 12 สาขาปลายปี 58 ถึงปัจจุบันโตกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน แถมเตรียมเปิดใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา หนุนเป้ายอดขายทั้งปีโต 10-15% รวมทั้งศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่คาดแล้วเสร็จ Q3/59 รองรับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต ขณะผลงานปี 58 รายได้ 1,316.20 ล้านบาท กำไรสุทธิ 39.14 ล้านบาท บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลครั้งแรกหุ้นละ 0.03 บาท

นายธวัชชัย พุฒิพิริยะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีก และค้าส่งสินค้าอุปโภคบริโภคในจังหวัดเชียงราย เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจค้าปลีกของบริษัทฯ ในปี 2559 มีแนวโน้มเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา แม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะยังไม่ฟื้นตัวมากเท่าที่ควรนัก แต่ทิศทางยอดขายบริษัทฯ ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเติบโตขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการรับรู้รายได้จากการขายผ่านสาขาเก่าของบริษัทที่ปัจจุบันมีอยู่ทั้งสิ้น 12 สาขา และในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายขยายสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 3 สาขา ซึ่งคาดทั้ง 3 สาขา จะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปลายไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 3/2559 สนับสนุนเป้าหมายรายได้จากการขาย และให้บริการปี 2559 เติบโตร้อยละ 10-15 เมื่อเทียบกับปี 2558 อยู่ที่ 1,316.20 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้างศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่ มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 8,000-10,000 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงปลายไตรมาส 3/2559 สนับสนุนให้บริษัทฯ มีต้นทุนบางส่วนลดลง และการบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมรับโอกาสในการขยายสาขาต่อไป โดยจะเน้นขยายสาขาในจังหวัดเชียงราย ก่อนที่จะขยายไปยังจังหวัดใกล้เคียง และให้ความสำคัญในการขายผ่านสาขามากกว่าการขายส่งจากสำนักงานใหญ่ เนื่องจากมีกำไรขั้นต้นสูงกว่า โดยในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้จากการขายผ่านสาขาร้อยละ 76 และรายได้จากการขายส่งจากสำนักงานใหญ่ร้อยละ 24

“เรามองว่าในปีนี้ภาพรวมธุรกิจของธนพิริยะ จะมีแนวโน้มที่ดี เห็นได้จากอัตรารายได้จากสาขาเดิม (Same Store Sale Growth) ในไตรมาส 4/2558 ที่ผ่านมา เริ่มกลับมาเป็นบวก เฉลี่ยอยู่ที่ 1.4% และมีทิศทางดีต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ถือเป็นสัญญาณที่ดีในการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราการเติบโตของรายได้จากสาขาเดิมในช่วงไตรมาส 3/2557-3/2558 ที่ติดลบ โดยในปีนี้ ธนพิริยะ จะเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 3 สาขา ซึ่งการเปิดสาขาใหม่จะสามารถเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่เดือนที่ 3-4 เป็นต้นไป หลังจากเปิดให้บริการแล้วจึงมองว่าจะเป็นอีกปัจจัยสนับสนุนยอดขายทั้งปีให้เติบโต 10-15% ตามเป้าหมายได้สำเร็จ ส่วนกำไรคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน” นายธวัชชัย กล่าว

นายธวัชชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ มีการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน 3 ประเทศ คือ จีน พม่า และ สปป.ลาว จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสนับสนุนการค้า และการท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย รวมทั้งเพิ่มการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคให้คึกคักมากขึ้น ดังนั้น บริษัทฯ จึงมองเห็นโอกาสการเติบโตของธุรกิจค้าปลีกในจังหวัดเชียงราย เมื่อศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่แล้วเสร็จจะเป็นอีกแรงขับเคลื่อนโอกาสการเติบโตของ TNP ได้อย่างแข็งแกร่ง

สำหรับผลประกอบการบริษัทฯ งวดประจำปี 2558 (สิ้นสุด ธ.ค.2558) บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย และการให้บริการ จำนวน 1,316.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.41 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.89 จากปีก่อนอยู่ที่ 1,197.79 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้จากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นในไตรมาส 4/2557 จำนวน 3 สาขา และในปี 2558 จำนวน 2 สาขา สนับสนุนยอดขายในปี 2558 เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 152.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จำนวน 19.74 ล้านบาท หรือร้อยละ 14.88 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นเท่ากับร้อยละ 11.58 เนื่องจากบริษัทฯ มีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้าผ่านสาขาที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าการขายส่งจากสำนักงานใหญ่ อย่างไรก็ตาม จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารจากการเปิดสาขา และเพื่อรองรับการเปิดสาขาใหม่ของบริษัทฯ ส่งผลให้ในปี 2558 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 39.14 ล้านบาท ลดลง 6.22 ล้านบาท หรือร้อยละ 13.71 จากปีก่อนอยู่ที่ 45.36 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจ่ายปันผลเป็นเงินสดงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2558 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2558 จำนวน 0.03 บาท/หุ้น กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 มีนาคม 2559 และกำหนดจ่ายในวันที่ 12 พฤษภาคม 2559 เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนธนพิริยะ ด้วยดีเสมอมา รวมถึงสะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่ดี และผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น