xs
xsm
sm
md
lg

ตลท.จับตาปัจจัยต่างประเทศอย่างใกล้ชิด มองผลประกอบการ บจ.ออกมาตามคาด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการ ตลท.มั่นใจดูแลผลกระทบจากปัญหาดอยช์แบงก์ได้ พร้อมจับตาปัจจัยต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพราะอาจส่งผลกระทบดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวน คาดการประกาศผลประกอบการ บจ.ที่เหลือจะออกมาตามที่ตลาดคาดไว้

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังมีความผันผวน โดยปัจจัยหลักมาจากปัจจัยต่างประเทศ โดยเฉพาะเมื่อเกิดปัญหาดอยช์แบงก์ ประสบต่อภาวะขาดทุนอย่างหนัก ซึ่งอาจจะทำให้ยุโรปฟื้นตัวไม่ได้เร็วอย่างคาดไว้ ประกอบกับราคาน้ำมันตลาดโลกลดลงอีก ซึ่งเป็นความผันผวนที่จะต้องระวัง แต่คาดว่าจะสามารถบริหารจัดการได้ และทำให้นักลงทุนหันไปให้ความสนใจลงทุนในทองคำมากขึ้น ทำให้จากราคาทองคำที่ขยับสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบหลายปี แต่นักลงทุนเองก็จะต้องระมัดระวังด้วยเช่นกัน

ขณะที่อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยอาจจะไม่เติบโตสูงนัก แต่เชื่อว่าสถานการณ์ในประเทศไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น โดยสิ่งที่ต้องจับตามอง คือ กรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งตอนนี้มีการคาดการณ์ว่า คงจะไม่ได้ปรับขึ้นเร็ว ทำให้คาดว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐไม่น่าจะแข็งค่ามากไป และค่าเงินบาทคงไม่อ่อนค่ามากนัก และเชื่อว่าเงินบาทคงไม่ได้ผันผวนมากเท่าปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน การที่สหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยช้าส่งผลให้ดอกเบี้ยนโยบายของไทยทรงตัวที่ระดับร้อยละ 1.5 ต่อไป

ส่วนอีกกรณีที่ต้องจับตา คือ ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ซึ่งขณะนี้มีการประกาศผลประกอบการของปี 2558 เกือบครบแล้ว ซึ่งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้ประกาศผลการดำเนินงานออกมาแล้วเป็นไปตามที่นักลงทุนคาดการณ์ ส่วนผลประกอบการกลุ่มพลังงาน ปรับลดลงตามสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ลดลง ส่วนบริษัทจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ประกาศผลประกอบการ เมื่อประกาศผลออกมาคงเป็นไปตามคาดเช่นกัน

สำหรับอีกปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ สถานการณ์การเมืองในประเทศ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าจะเป็นไปตามตารางเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้ง โดยระหว่างการรออาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน และตลาดทุนได้

อย่างไรก็ตาม ขอให้นักลงทุนพิจารณาการลงทุนในระยะยาว เนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องผลต่อเนื่องจากการการประมูล 4G และเรื่องการควบรวมกิจการ หรือการซื้อกิจการ ซึ่งจะสะท้อนให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนไทยมีสภาพคล่องสูงในการซื้อกิจการ

ส่วนกรณีที่ซีพีออลล์ ยังมีมติไม่ปลดกรรมการ 3 ราย ให้พ้นจากตำแหน่ง หลังจากถูกสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปรียบเทียบปรับกว่า 30 ล้านบาท เรื่องการใช้ข้อมูลภายในเข้าไปซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) นางเกศรา มองว่า เป็นการสะท้อนว่าตลาดหุ้นมีพัฒนาการเรื่องธรรมาภิบาล ซึ่งเรื่องนี้มองได้ 2 ด้าน คือ กฎเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์เอง และเรื่องจริยธรรมของบริษัทจดทะเบียนด้วย เป็นตัวอย่างของการกระตุกว่า ตลาดหลักทรัพย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกลับมาทบทวนว่า สิ่งที่เราทำมาควรจะเพิ่ม หรือแก้ไขปรับปรุงอะไรหรือไม่ จะทำอย่างไรให้บริษัทจดทะเบียนมีธรรมาภิบาลเต็มที่เป็นไปตามความคาดหวังของสังคม
กำลังโหลดความคิดเห็น