หุ้นไทยปิดบวก 20 จุด บล.เมย์แบงก์ฯ ชี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับต่างประเทศ หลังจากค่าเงินหยวนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ และยังมีการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มแบงก์ ที่มีการประกาศผลการดำเนินงานปี 58 แถมได้แรงหนุนจากหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ขณะที่ บล.บัวหลวง คาดรีบาวนด์ทางเทคนิค แนวโน้มพรุ่งนี้อาจขึ้นต่อได้ แนะจับตาตัวเลขสต๊อกน้ำมันสหรัฐฯ
นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย ) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (12 ม.ค.) ปรับตัวดีขึ้นในภาคบ่ายตามตลาดต่างประเทศ ทั้งยุโรป และเอเชีย หลังจากค่าเงินหยวนเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ยังมีการเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่มีการประกาศผลการดำเนินงานปี 2558 และยังได้แรงหนุนจากหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง
นายชัยพร น้อมพิทักษ์เจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง มองว่า ดัชนีหุ้นไทยสามารถปรับตัวรีบาวนด์เป็นบวกได้ หลังจากปรับตัวลดลงค่อนข้างมากเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) และในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการรีบาวนด์เชิงเทคนิค โดยยังไร้ปัจจัยอื่นเข้ามาหนุน อีกทั้งนักลงทุนเริ่มเข้ามาซื้อหุ้นอีกรอบโดยเฉพาะหุ้นกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มพลังงานที่ราคาลดลงไปมากแล้ว
สำหรับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ ตลาดหุ้นในภูมิภาคอาเซียนส่วนใหญ่ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก ส่วนตลาดหุ้นในจีนวันนี้ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเหนือ อย่างเช่น เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดที่ระดับ 1,255.30 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.68% มูลค่าการซื้อขาย 46,997.03 ล้านบาท ด้านสัดส่วนการลงทุน นักลงทุนสถาบัน ซื้อสุทธิ 2,298.45 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 570.15 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติ ซื้อสุทธิ 375.24 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ขายสุทธิ 3,243.84 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (13 ม.ค.) คาดว่าดัชนียังรีบาวนด์เชิงเทคนิคต่อเนื่อง หลังจากรับข่าวด้านลบต่างๆ ไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ ยังต้องติดตามการประกาศตัวเลขสต๊อกน้ำมันของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในคืนนี้ ซึ่งมีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก พร้อมให้แนวต้าน 1,262 จุด แนวรับ 1,246 จุด