บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) บินตรงเสิร์ฟข้อมูลนักลงทุนสถาบันที่ประเทศสิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา ผลตอบรับดีเกินคาด หลังตอกย้ำอนาคต GUNKUL จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งจากธุรกิจพลังงานทดแทนขยายตัวเต็มสูบ ปักธงทำผลงานปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 25% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท หลังทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์เซลล์-พลังงานลม “ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย” ระบุต่อจากนี้มุ่งผลักดันผลงานทุกภาคส่วนให้ขยายตัวต่อเนื่อง หนุนธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ดร.สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 7-8 มกราคม 2559 ที่ผ่านมา คณะผู้บริหาร และทีมงานของบริษัทฯ นำโดย คุณกัลกุล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการ เดินทางไปนำเสนอข้อมูลของบริษัท (โรดโชว์) ให้แก่นักลงทุนสถาบันที่ประเทศสิงคโปร์ โดยร่วมกับ Credit Suisse Group ในประเทศสิงคโปร์ ซึ่งผลจากการโรดโชว์ในครั้งนี้พบว่าได้รับความสนใจจากกองทุนต่างๆ เป็นจำนวนมาก และถือว่าเกินกว่าที่คาดไว้มาก
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลเพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้แก่กองทุนต่างๆ โดยระบุว่า ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ทั้งใน และต่างประเทศรวมกว่า 336 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 90 เมกะวัตต์ โครงการพลังงานลมในประเทศ ขนาดกำลังการผลิต 170 เมกะวัตต์ และโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาดกำลังการผลิต 65 เมกะวัตต์ ซึ่งในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้าในการมีโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศไม่น้อยกว่า 550-600 เมกะวัตต์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีศักยภาพในการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ร่วมกับพันธมิตรที่ประเทศญี่ปุ่น นับจากช่วงนี้ยาวถึง 2-3 ปีข้างหน้า โดยกำหนดเป้าหมายไว้ไม่น้อยกว่า 250 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์อยู่ในมือ 65 เมกะวัตต์
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จจากการเพิ่มทุน RO (Right Offering) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมเป็นเงินกว่า 4 พันล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวม และส่วนผู้ถือหุ้นเติบโต และมีสถานะที่แข็งแกร่ง และส่งผลให้มีอัตราหนี้สินต่อทุนในปัจจุบันเพียง 1.10 เท่า ประกอบยังมี Warrant ที่ผู้ถือหุ้นสามารถใช้สิทธิได้ในอัตรา 1:1 ในราคา 27 บาทในระยะเวลา 2 ปี ซึ่งเมื่อรวมกับผลกำไรจากการดำเนินงานจากโครงการต่างๆ ที่ทยอยจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ประกอบกับบริษัทฯ จะจัดให้มีการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 มกราคม 2559 นี้ เพื่อวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงให้แก่ธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งแสดงเจตจำนงเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวในวงเงินประมาณ 1 พันล้านบาท จะช่วยเสริมศักยภาพ และยังผลให้บริษัทฯ มีเงินทุนเพียงพอต่อการลงทุนสำหรับโครงการในอนาคตได้ถึง 550-600 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นหลักประกันได้ว่าบริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนโดยการเพิ่มทุนอีกในระยะ 3-5 ปีข้างหน้านี้
อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลา 5 ปี ที่นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถือว่า GUNKUL ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง จาก Market Cap ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโตเป็น 30,000 ล้านบาท หรือเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 15 เท่า อีกทั้งในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 87 เมกะวัตต์ (ถือสัดส่วน 67%) จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แล้ว และคาดว่าในปีนี้ช่วงเดือนมีนาคม 2559 จะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการวินด์ฟาร์ม จำนวน 10 เมกะวัตต์ ในโครงการซับพลู 1-2 ที่ตำบลห้วยบง อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา โดยจะจำหน่ายไฟฟ้าได้ครบทั้ง 60 เมกะวัตต์ ได้ภายในต้นเดือนกรกฎาคม 2559 นี้
ดร.สมบูรณ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 2559 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 25% หรือประมาณ 6,000 ล้านบาท เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด ขนาดกำลังการผลิต 87 เมกะวัตต์ (ถือสัดส่วน 67%) และจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 2 โครงการ คือ โครงการซับพลูวินด์ฟาร์ม 1, 2 และ วายุวินด์ฟาร์ม ขนาดกำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ ของบริษัท พัฒนาพลังงานลม อีกทั้งภาครัฐยังได้ส่งเสริมโครงการพลังงานทดแทน ซึ่งบริษัทฯ ได้เข้าร่วมโครงการโซล่าสหกรณ์และราชการ โดยได้รับประกาศผ่านคุณสมบัติแล้ว 50 เมกะวัตต์ จากทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) โดยคาดว่าโครงการดังกล่าวจะก่อสร้าง และจำหน่ายไฟฟ้าและรับรู้รายได้ในปี 2559 นี้
“บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น และโครงการวินด์ฟาร์มอีก 2 โครงการให้เสร็จสิ้นตามแผนงาน รวมถึงการจัดหา PPA ในโครงการใหม่ครอบคลุมทุกด้านทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายความเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน และก้าวสู่บริษัทพลังงานสะอาดชั้นนำในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไป” ดร.สมบูรณ์ กล่าวในที่สุด