ธปท.เตือนระวังความผันผวนสูงในตลาดการเงิน หลังหุ้นจีนร่วงหนัก และเงินหยวนอ่อนค่า

ธปท.เตือนระวังความผันผวนสูงในตลาดการเงิน หลังหุ้นจีนดิ่ง และหยวนอ่อนค่าหนัก แม้ในขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสัญญาณความผิดปกติ หรือความตื่นตระหนกเกิดขึ้นในตลาด แนะภาคเอกชนควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับต่อความผันผวนที่มีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ความผันผวนที่เกิดขึ้นต่อตลาดการเงินไทยหลังช่วงปีใหม่นี้ เป็นผลมาจากปัจจัยภายนอกเป็นสำคัญ ได้แก่ การปรับลดลงของดัชนีตลาดหุ้นจีน ที่สัปดาห์นี้ลดลงถึงร้อยละ 12 ทำให้ต้องประกาศหยุดทำการซื้อขายชั่วคราว (circuit breaker) วันที่ 4 มกราคมที่ผ่านมา และวันนี้ (7 ม.ค.) สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการประกาศตัวเลข Purchasing Managers Index (PMI) ของจีน ทั้งภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการที่ชะลอลง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนมีน้ำหนักมากขึ้น

นอกจากนี้ ทางการจีนยังกำหนดค่าเงินหยวนอ่อนค่าต่อเนื่อง ทำให้ตั้งแต่ต้นปีเงินหยวนที่ซื้อขายในประเทศจีน (CNY) และที่ซื้อขายในตลาดต่างประเทศ (CNH) อ่อนค่าไปร้อยละ 1.5 และ 1.9 ตามลำดับ รวมถึงผลจากความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งความขัดแย้งระหว่างซาอุดีอาระเบีย และอิหร่าน และการทดลองระเบิดปรมาณูของเกาหลีเหนือ ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าวส่งผลให้ความเชื่อมั่นโดยรวมของตลาดการเงินโลกอ่อนแอลง และกดดันตลาดหุ้น และค่าเงินภูมิภาคปรับอ่อนค่าลง

สำหรับค่าเงินบาท ตั้งแต่ต้นปีเคลื่อนไหวในกรอบ 36.08-36.35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยอ่อนค่าลงประมาณร้อยละ 0.7 นับจากสิ้นปีที่แล้ว การอ่อนค่าของเงินบาทถือว่าสอดคล้องต่อค่าเงินภูมิภาคท่ามกลางความเสี่ยงในตลาดการเงินโลกที่มีมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีสัญญาณความผิดปกติ หรือความตื่นตระหนกเกิดขึ้นในตลาด สำหรับภาคเอกชนควรติดตามสถานการณ์ความผันผวนของตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด และพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไว้ล่วงหน้า เพื่อรองรับต่อความผันผวนที่มีแนวโน้มว่าจะคงอยู่ในระดับสูงต่อไป