ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี ส่องแนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้าง 59 เห็นแววฟื้น รับอานิสงส์รัฐขับเคลื่อนโปรเจกต์ใหญ่ หนุนความมั่นใจภาคเอกชนลงทุนเพิ่ม ตั้งเป้ารายได้แตะ 2.6 พันล้านบาท พร้อมทุ่มงบลงทุน 150 ล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองรับออเดอร์ใหม่
นายอาทิตย์ ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์คอนกรีตชลบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ CCP เปิดเผยว่า ทิศทางภาพรวมอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างปี 2559 จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาดีกว่าปี 2558 ที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากภาครัฐมีแผนกระตุ้น และขับเคลื่อนโครงการเมกะโปรเจกต์ต่างๆ ที่มีความล่าช้าเป็นอย่างมากในช่วงก่อนหน้านี้ การดำเนินนโยบายดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้รับเหมาก่อสร้างภาคเอกชนมีโอกาสในการรับงานมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เริ่มกลับมาลงทุนในโครงการใหม่อีกครั้ง ทั้งนี้ ทั้ง 2 ปัจจัยจะทำให้ภาคธุรกิจคอนกรีต วัสดุก่อสร้างได้รับผลดีด้วยเช่นกัน
“CCP มองว่า ปี 59 บรรยากาศต่างๆ จะค่อยๆ กลับมาดีขึ้น และน่าจะเห็นการเดินหน้าลงทุนโครงการใหญ่ของภาครัฐเยอะขึ้น จากนโยบายที่ออกมาหลายอย่าง และการเดินหน้าโปรเจกต์ที่รัฐบาลได้วางแผนไว้แล้ว” นายอาทิตย์ กล่าว
ทั้งนี้ บริษัทมีความพร้อมในการผลิตสินค้าคอนกรีตทุกรูปแบบ และมีกำลังการผลิตที่เพียงพอเพื่อรองรับความต้องการคอนกรีตรูปแบบต่างๆ ในช่วงที่ความต้องการของตลาดมีมากขึ้น ซึ่งในปี 2559 บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ไว้ที่ประมาณ 2.6 พันล้านบาท โดยการเติบโตจะเป็นไปตามการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ และการลงทุนของภาคเอกชน
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2559 บริษัทยังคงเดินหน้ามองหาตลาดใหม่ๆ เพิ่ม จาก B to B มาเป็น B to C ให้มากขึ้น เพื่อเป็นการขยายฐานลูกค้า และกระจายความเสี่ยง ควบคู่ไปกับการเน้นขยายช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์คอนกรีตสำเร็จรูป เพื่อผลักดันให้เกิดการรับรู้รายได้อย่างสม่ำเสมอ
ขณะที่งบลงทุนในปี 2559 บริษัทวางงบไว้สำหรับลงทุนอยู่ที่ 150 ล้านบาท เพื่อลงทุนในการปรับปรุงเครื่องจักรเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ออกสินค้าใหม่ โดยหลักๆ จะเน้นให้เครื่องจักรสามารถผลิตแทนกันได้ สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้น เพื่อรองรับออเดอร์ และความต้องการใช้งานที่หลากหลายในอนาคต
สำหรับรายได้รวมในปี 58 บริษัทคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 2.4 พันล้านบาท โดยไตรมาส 4/58 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/57 ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี และน่าจะส่งผลดีถึงไตรมาส 1/59 ขณะที่ปัจจุบัน บริษัทมี Backlog ประมาณ 2400 ล้านบาท โดยใช้ระยะเวลา 1.5 ปี ในการทยอยรับรู้รายได้ ซึ่งเฉพาะในปีนี้จะรับรู้รายได้ 60% ของ Backlog ทั้งหมด โดยบริษัทจะทยอยหางานเข้ามาเพิ่มอีกในอนาคตเพื่อรักษาระดับมูลค่างานในมือ (Backlog) ไว้ไม่ต่ำกว่า 2 พันล้านบาท