แสนสิริ คาดปี 58 รายได้ 37,000 ล้านบาท โต 25% จากปี 57 แย้มแผนพัฒนาคอนโดแนวรถไฟฟ้าภายใต้บริษัทร่วมทุนบีทีเอส 25 โครงการ มูลค่า 1 แสนล้านบาท ใน 5 ปี หลังแบรนด์ “เดอะ ไลน์” ประสบความสำเร็จทั้ง 3 โครงการ มั่นใจโอกาสตลาดต่างจังหวัดในระยะยาว พร้อมเตรียมแผนพัฒนาโครงการเพิ่มตลาดต่างจังหวัดรับ AEC
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า คาดว่าผลการดำงานปี 58 จะมีรายได้รวม 37,000 บาท เติบโตขึ้น 25% จากปีก่อนหน้า ซึ่งเกินจากเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้มีรายได้เกินเป้าในปีนี้สืบเนื่องจากมีรายได้จากการขายรวมกับการที่บริษัทเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ทั้งนี้ รายได้ที่ดีในปีนี้เติบโตโดดเด่นจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดรวม 42 โครงการ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ 14 โครงการ และต่างจังหวัด 28 โครงการ
“การที่ลูกค้าให้การตอบรับดีต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี รวมทั้งการที่บริษัทมี Presale Backlog ที่สามารถ Secured Revenue เป้ารายได้ที่สูง ทำให้มั่นใจว่าในสิ้นปี 58 จะมีรายได้รวมเกินจากเป้าที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา รวมทั้งคาดว่าจะมีอัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นประมาณ 15% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า รวมทั้งปัจจุบัน บริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ที่จะรองรับการรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้าแล้ว 27,114 ล้านบาท”
สำหรับรายได้รวมสิ้นปีจะมาจากรายได้จากการขายรวมกับการที่แสนสิริ เริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส (BTS) ตามแผนความร่วมมือในระยะ 5 ปี ซึ่งแสนสิริ และกลุ่มบริษัทบีทีเอสมีแผนพัฒนาคอนโดฯ ในแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนภายใต้บริษัทร่วมทุน จำนวน 25 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 1 แสนล้านบาท ในช่วง 5 ปี ทั้งนี้ บริษัทจะเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 59 หลังจากประสบความสำเร็จจากคอนโดมิเนียมแบรนด์ “เดอะ ไลน์” (THE LINE) ไปถึง 3 โครงการ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดจะฟื้นตัวทั้งจากปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล คือ มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และแผนการพัฒนาระบบลอจิสติกส์ รวมทั้งการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ทั้งนี้ ในจังหวัดเชียงใหม่นับเป็นหัวเมืองหลักทางภาคเหนือ บริษัทจึงมีแผนจะพัฒนาโครงการเพื่อตอบรับความต้องการของกลุ่มลูกค้าต่อเนื่องจากเดิมที่เปิดไปแล้ว 6 โครงการ