xs
xsm
sm
md
lg

“ออริจิ้น”ปรับทัพองค์กรใหม่รองรับการขยายตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์
“ออริจิ้น”จัดทัพองค์กรใหม่รองรับการขยายตัว เชื่อหลังรัฐออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ตลาดคึกคักขึ้น ระบุรับอานิสงส์เต็มๆเนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นคอนโดราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท พร้อมออกแคมเปญเสริมจ่ายเดือนละ 1,000 บาท นาน 2 ปี

นายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาจะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อบ้านของลูกค้า และเชื่อว่าตลาดอสังหาฯหลังจากนี้เป็นต้นไปจะมีความคึกคักมากขึ้น เพราะผู้ประกอบการน่าจะมีการจัดแคมเปญต่าง ๆ ออกมากระตุ้นด้วย ในส่วนของบริษัทจะมีการจัดแคมเปญเพื่อให้สอดคล้องไปกับมาตรการรัฐ นำโครงการพร้อมอยู่ทั้งห้องเล็กห้องใหญ่ จัดโปรโมชั่นจ่ายเดือนละพัน นาน 2 ปี

มาตรการกระตุ้นอสังหาฯดังกล่าว บริษัทถือว่าได้รับอานิสงส์มาก เนื่องจากสินค้าส่วนใหญ่เป็นคอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 2 ล้านบาท โดยปัจจุบันมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ปีนี้ถึงปี 2559 ประมาณ 6,000 ล้านบาท โดยจะเตรียมนัดหารือกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)เพื่อส่งลูกค้าให้กับ ธอส. ประมาณ 100 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ได้เสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) ไปในช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนค่อนข้างดี จึงได้ทำการปรับองค์กรใหม่เพื่อให้รองรับกับการขยายตัวของบริษัทในอนาคต โดยแบ่งการบริหารงานตามพื้นที่ตั้งโครงการ จากเดิมจะแบ่งทีมงานตามแบรนด์สินค้า อาทิ จะมีทีมบริหารโครงการกรุงเทพและปริมณฑล และทีมบริหารในจังหวัดที่บริษัทขยายการลงทุนไป เช่น ชลบุรี

รวมทั้งมีการจัดวางแบรนด์ให้มีความชัดเจนและอาจจะตัดบางแบรนด์ทีมีความใกล้เคียงและทับซ้อนกันออก เช่น คอนโมมิเนียมไฮไรส์ จะใช้แบรนด์ ไนท์บริด เป็นหลัก ส่วนโครงการโลวไรส์ 8 ชั้น จะใช้แบรนด์ แคนซิงตัน เป็นต้น และจะเพิ่มเซคเมนท์ให้มีความหลายหลายมากขึ้นจากปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ระดับราคา 1.5-2 ล้านบาท

นอกจากนี้บริษัทยังได้เช่าพื้นที่บริเวณสถานีบีทีเอสอโศก ใช้เป็นสำนักงานกลางในการติดต่อซื้อขายหรือเช่าโครงการของบริษัท อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าทำให้ไม่จำเป็นต้องไปถึงแบริ่งหรือสำนักงานขายโครงการ
ส่วนแผนงานของบริษัทในอนาคต ตั้งเป้าหมายเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 15% และจะมีการเปิดโครงการใหม่ประมาณ 10 โครงการต่อปี มูลค่าโครงการเฉลี่ย คอนโดมิเนียมไฮไรส์ 1,000 ล้านบาทต่อโครงการ ส่วนคอนโดมิเนียมโลวไรส์ มูลค่า 600-700 ล้านบาทต่อโครงการ ระดับราคาประมาณ 2-4 ล้านบาท

ทั้งนี้ที่ผ่านมาบริษัทมีการพัฒนาคอนโดมิเนียมโลวไรส์เป็นหลัก แต่ระยะต่อไปจะเพิ่มสัดส่วนการพัฒนาโครงการไฮไรส์มากขึ้นด้วย นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาโครงการแนวราบ คาดว่าจะมีความชัดเจนและเริ่มพัฒนาโครงการแรกในปีหน้า ซึ่งการพัฒนาโครงการแนวราบเป็นการกระจายความเสี่ยงธุรกิจของบริษัท


กำลังโหลดความคิดเห็น