ASTVผู้จัดการรายวัน - ธอส.เล็งเพิ่มวงเงินปล่อยสินเชื่อบ้านเพิ่ม หลังประชาชนผู้มีรายได้น้อยแห่ขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำตามมาตรการผ่อนปรนเพื่อกระตุ้นตลาดอสังหาฯ ของรัฐบาล เผยวันที่ 22 ต.ค.จะมีการหารือกับคลังและผู้ประกอบการร่วมกันสร้างบ้านให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย พร้อมกับการหารือให้สถาบันการเงินของรัฐแห่งอื่นร่วมปล่อยกู้
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ประชานให้ความสนใจขอกู้สินเชื่อภายใต้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลวงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท อย่างคึกคักทั่วประเทศ เฉพาะช่วงเช้าของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรก มีลูกค้า 2 พันกว่าราย เข้ายื่นคำร้องขอสินเชื่อกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาขอสินเชื่อเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อราย โดยกระบวนการอนุมัติสินเชื่ออย่างเร็วที่สุดภายใน 3 วัน และคาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้เข้ามาขอสินเชื่อประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าได้รับการตอบรับดีมาก ดังนั้นธนาคารเตรียมปล่อยสินเชื่อแบบไม่จำกัดวงเงิน ตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาขอ
นอกจากนี้ในวันที่ 22 ต.ค.58 นี้ จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณาแนวทางที่จะให้เอกชนร่วมกันสร้างบ้านให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย ถึงแนวทางปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงิน 500,000-600,000 บาท พร้อมกับการหารือให้สถาบันการเงินของรัฐแห่งอื่นร่วมปล่อยกู้
"ธนาคารเตรียมประเมินความต้องการสินเชื่อบ้าน เพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มวงเงินในการปล่อยสินเชื่อรอบใหม่ ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาขอขยายวงเงินจากเดิมวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่า จะหมดภายใน 1-2 เดือนนี้" นายงอังคณากล่าวและยืนยันว่า ไม่กระทบกับฐานะการเงินของธนาคาร เนื่องจากสภาพคล่องธนาคารยังแข็งแกร่งล่าสุดมีอยู่ 7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารแล้ว สามารถรอการทำสัญญา หลังจากกระทรวงมหาดไทยประกาศสิทธิประโยชน์ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจำจดนอง เหลือเพียง 0.01%
นางอังคณากล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ไม่มีความกังวลว่าจะทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลสูงขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันเอ็นพีแอลธนาคารอยู่ที่ 5% จากสิ้นเชื่อคงค้าง ณ สิ้น ก.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 8.37 แสนล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อใหม่ในปีนี้ 1.08 แสนล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 1.49 แสนล้านบาท
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธอส. กล่าวว่า ประชาชนสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ คาดว่าจะมีประชาชนได้สินเชื่อจากวงเงิน 1 หมื่นล้านบาทนี้กว่า 7,000 คน และจะขยายวงเงินสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวออกไปอีก เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
สำหรับมาตรการที่ออกมามีการผ่อนปรนการคำนวณรายได้สุทธิต่อวงเงินการขอสินเชื่อ ( DSR ) ให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 33% ของรายได้สุทธิ มาเป็น 40-50% ของรายได้สุทธิ เช่น ประชาชนที่มีรายได้สุทธิ 3 หมื่นบาท สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 3 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมีรายได้สุทธิสูงถึง 5.4 หมื่นบาท ถึงจะขอสินเชื่อได้ในวงเงินดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่าย โดยช่วง 3 ปีแรก มีการผ่อนปรนดอกเบี้ยต่ำ 3.5%, 4.25% และ เอ็มอาร์อาร์-0.75% ซึ่งลดลงจากดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ปกติที่คิดที่ -0.5%
นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัส กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ประชานให้ความสนใจขอกู้สินเชื่อภายใต้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลวงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท อย่างคึกคักทั่วประเทศ เฉพาะช่วงเช้าของวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรก มีลูกค้า 2 พันกว่าราย เข้ายื่นคำร้องขอสินเชื่อกว่า 2,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาขอสินเชื่อเฉลี่ย 2 ล้านบาทต่อราย โดยกระบวนการอนุมัติสินเชื่ออย่างเร็วที่สุดภายใน 3 วัน และคาดว่าหลังจากนี้จะมีผู้เข้ามาขอสินเชื่อประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าได้รับการตอบรับดีมาก ดังนั้นธนาคารเตรียมปล่อยสินเชื่อแบบไม่จำกัดวงเงิน ตามความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาขอ
นอกจากนี้ในวันที่ 22 ต.ค.58 นี้ จะมีการหารือกับกระทรวงการคลัง และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพิจารณาแนวทางที่จะให้เอกชนร่วมกันสร้างบ้านให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย ถึงแนวทางปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยวงเงิน 500,000-600,000 บาท พร้อมกับการหารือให้สถาบันการเงินของรัฐแห่งอื่นร่วมปล่อยกู้
"ธนาคารเตรียมประเมินความต้องการสินเชื่อบ้าน เพื่อพิจารณาแนวทางการเพิ่มวงเงินในการปล่อยสินเชื่อรอบใหม่ ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ โดยจะเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาขอขยายวงเงินจากเดิมวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ที่คาดว่า จะหมดภายใน 1-2 เดือนนี้" นายงอังคณากล่าวและยืนยันว่า ไม่กระทบกับฐานะการเงินของธนาคาร เนื่องจากสภาพคล่องธนาคารยังแข็งแกร่งล่าสุดมีอยู่ 7 หมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ ลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคารแล้ว สามารถรอการทำสัญญา หลังจากกระทรวงมหาดไทยประกาศสิทธิประโยชน์ลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าธรรมเนียมการจำจดนอง เหลือเพียง 0.01%
นางอังคณากล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อดังกล่าว ไม่มีความกังวลว่าจะทำให้หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอลสูงขึ้น ซึ่งจากปัจจุบันเอ็นพีแอลธนาคารอยู่ที่ 5% จากสิ้นเชื่อคงค้าง ณ สิ้น ก.ย.ที่ผ่านมาอยู่ที่ 8.37 แสนล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อใหม่ในปีนี้ 1.08 แสนล้านบาท จากเป้าหมายทั้งปีที่ 1.49 แสนล้านบาท
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานสินเชื่อ ธอส. กล่าวว่า ประชาชนสามารถเข้าขอสินเชื่อได้ที่ ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ คาดว่าจะมีประชาชนได้สินเชื่อจากวงเงิน 1 หมื่นล้านบาทนี้กว่า 7,000 คน และจะขยายวงเงินสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวออกไปอีก เพื่อรองรับความต้องการของประชาชน
สำหรับมาตรการที่ออกมามีการผ่อนปรนการคำนวณรายได้สุทธิต่อวงเงินการขอสินเชื่อ ( DSR ) ให้เพิ่มมากขึ้น จากเดิมอยู่ที่ 33% ของรายได้สุทธิ มาเป็น 40-50% ของรายได้สุทธิ เช่น ประชาชนที่มีรายได้สุทธิ 3 หมื่นบาท สามารถขอสินเชื่อได้สูงสุด 3 ล้านบาท จากเดิมที่ต้องมีรายได้สุทธิสูงถึง 5.4 หมื่นบาท ถึงจะขอสินเชื่อได้ในวงเงินดังกล่าว ทำให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อบ้านได้ง่าย โดยช่วง 3 ปีแรก มีการผ่อนปรนดอกเบี้ยต่ำ 3.5%, 4.25% และ เอ็มอาร์อาร์-0.75% ซึ่งลดลงจากดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ ปกติที่คิดที่ -0.5%