xs
xsm
sm
md
lg

อนันดาฯ โชว์กำไร Q3 โต 124% หลังยอดขายเกินเป้า 39% สวนทางตลาดรวม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชานนท์ เรืองกฤติยา
อนันดาฯ เผยกำไร Q3/58 โต 124% จากไตรมาสก่อนเป็น 161 ล้านบาท หลังยอดขายเกินเป้าหมาย 4,452 ล้านบาท หรือโตกว่าเป้า 39% จากยอดขายโครงการใหม่ และโครงการที่เปิดตัวก่อนหน้า ส่วนรายได้ปรับตัวเพิ่ม 2,251 ล้านบาท หรือเติบโตจากไตรมาส 2 กว่า 88%

นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2558 มีกำไรเพิ่มขึ้น 124% จากไตรมาสก่อน เป็น 161 ล้านบาท จากรายได้การขายอสังหาริมทรัพย์ที่สูงกว่า 9% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 2,056 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีรายได้อื่นอีกกว่า 414 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่มาจากรายได้ค่าบริหารโครงการที่ร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง ทำให้ในไตรมาสนี้บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,665 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73% จากไตรมาสก่อน

ทั้งนี้ เป้ารายได้ทั้งปียังคงไม่เปลี่ยนแปลงจากเป้าหมายที่ตั้งไว้ก่อนหน้าอยู่ระหว่าง 10,000-11,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการควบคุมต้นทุน แม้ว่าค่าใช้จ่ายจากการบริหารงานจะเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่น้อยกว่ารายได้ที่เพิ่มสูงถึง 32% ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายในการบริหารขายในไตรมาส 3 นี้ รวมค่าใช้จ่ายในการจัดงานประจำปีที่สยามพารากอน จากปีก่อนซึ่งจัดงานในไตรมาส 4 อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบไตรมาส 3 ปีนี้ กับไตรมาส 4 ปีก่อน ค่าใช้จ่ายการขายโดยรวมลดลงเกินกว่า 110 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ ได้เปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ติดรถไฟฟ้าบน 3 ทำเล ด้วยมูลค่าโครงการ 10,760 ล้านบาท ได้แก่ โครงการไอดีโอ โอทู ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสบางนา มูลค่าโครงการกว่า 5,000 ล้านบาท โครงการไอดีโอ สุขุมวิท 115 ติดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสปู่เจ้าฯ มูลค่าโครงการกว่า 2,700 ล้านบาท และโครงการคิว ชิดลม-เพชรบุรี ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม มูลค่าโครงการ 3,000 ล้านบาท นอกจานี้ บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์การขายรูปแบบใหม่โดยการเปิดขายห้องบางส่วนในช่วงเปิดตัวโครงการใหม่ และเปิดขายเพิ่มขึ้นตลอดช่วงเวลาดำเนินการก่อสร้าง ทั้งนี้ บริษัทฯ มีอัตราการขายสูงกว่า 70% ของยูนิตที่เปิดขายในช่วงเปิดโครงการใหม่ โดยในไตรมาส 3 บริษัทฯ สร้างยอดขายได้กว่า 6,200 ล้านบาท เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ 39% ทำให้ยอดขาย 9 เดือนแรกของปี เพิ่มขึ้นเป็น 18,680 ล้านบาท คิดเป็น 81% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปีที่ตั้งไว้ในไตรมาส 1/58 กว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งมาจากยอดขายจากโครงการใหม่ได้รับการตอบรับที่ดี และจะทยอยเปิดขายยูนิตเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังประสบความสำเร็จจากการเปิดขายโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ “อาร์เด้น” ทั้ง 3 ทำเล ที่สามารถสร้างสถิติที่สูงสุดในการขายกว่า 1,200 ล้านบาท

“อนันดาฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ ณ สิ้นไตรมาส 3/58 เกินกว่า 36,300 ล้านบาท โดยมีกำหนดโอนตลอด 3 ปีข้างหน้า โดยในช่วงไตรมาส 4 ปี 2558 มียอดขายรอรับรู้รายได้แล้วคิดเป็น 85% ของเป้าหมายรายได้ในไตรมาส 4”

สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโต 43% จากปี 2558 โดยได้รวมส่วนแบ่งรายได้ของโครงการคอนโดมิเนียมไอดีโอ คิว จุฬา สามย่าน ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง ตั้งเป้ารายได้อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่ตั้งเป้าหมายปี 2558 ไว้กว่า 10,500 ล้านบาท จากวงจรเงินทุน ทำให้บริษัทฯ เปิดขายโครงการใหม่ในปี 2559 ด้วยมูลค่าโครงการลดลงเป็น 22,000 ล้านบาท จาก 34,000 ล้านบาท ในปี 2558

ทั้งนี้ ในปี 2559 บริษัทจะเปิดขายโครงการใหม่ 10 โครงการ โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 8 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการร่วมทุนกับมิตซุย ฟูโดซัง 4 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ แม้ว่ามูลค่าเปิดขายโครงการใหม่จะลดลง แต่ในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายในระดับเกือบ 22,000 ล้านบาท เปรียบเทียบกับเป้าหมายปี 2558 ในระดับ 23,000 ล้านบาท จากการขายโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้าในอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น

“บริษัทฯ รู้สึกยินดีต่อผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในไตรมาสนี้ พร้อมทั้งยังสามารถรักษาการเติบโตของธุรกิจ และผลการดำเนินงานที่ดี นอกจากนี้ ยังรักษาความมีวินัยด้านต้นทุนการดำเนินงาน และการกู้ยืมอีกด้วย โดยอนันดาฯ ยังคงครองความเป็นผู้นำคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และผู้นำในการพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งด้านการออกแบบอาคาร และการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ด้านอื่นๆ ทำให้อนันดาฯ ยังคงตั้งเป้าในการเป็นผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมต่อไป พร้อมทั้งดำรงอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อทุนในระดับ 1:1 ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาวในการบริหารงานของบริษัทอีกด้วย”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2559 เป็นปีที่ได้เห็นผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นจากเงินทุนจากการระดมทุน IPO เมื่อ 3 ปีก่อน ทำให้คาดว่าบริษัทจะมีรายได้ และกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถเก็บเกี่ยวรายได้อีกหลายปีจากการลงทุนพัฒนาโครงการในช่วงหลังจาก IPO เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา
กำลังโหลดความคิดเห็น