รมว.คลัง เตรียมออกมาตรการภาษีกระตุ้นบริโภคปลายปี ภายใน 1-2 วันนี้ และเตรียมการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษีตามขั้นบันได 7 ขั้น ซึ่งมีเพดานการจัดเก็บ 35% พร้อมปรับค่าลดหย่อนให้เกิดความเหมาะสม เพื่อหวังกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะออกมาตรการรกระตุ้นการบริโภคเพิ่มเติมภายใน 1-2 วันนี้ รวมทั้งเตรียมการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจากปัจจุบันกำหนดอัตราภาษีตามขั้นบันได 7 ขั้น ซึ่งมีเพดานการจัดเก็บ 35% และปรับค่าลดหย่อนให้เกิดความเหมาะสม เพื่อหวังกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชนในประเทศ
“ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ประชาชนระมัดระวังการใช้จ่าย เอสเอ็มอีไม่ยอมลงทุน เอกชนรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจให้ชัดเจนเพราะยอดขายตกต่ำ ครม.จึงหาทางสนับสนุนการลงทุนด้วยการเห็นชอบการจัดตั้งกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันวงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมไฮเทคแนวใหม่ให้เกิดขึ้นในประเทศ เมื่อภาคเอกชนได้ลงทุนตามเกณฑ์ที่กำหนด พร้อมจัดสรรเงินงบประมาณ และมาตรลดหย่อนทางภาษี”
รมว.คลัง กล่าวว่า เมื่อได้ออกมาตรการด้านต่างๆ ออกมาน่าจะเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ภาคเอกชนขยายการลงทุนได้มากขึ้น จึงเชื่อมั่นว่าจากภาวะเศรษฐกิจในปีนี้ขยายตัว 2.9% และในปีหน้าน่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้
ส่วนปัญหาภัยแล้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 59 นั้น รัฐบาลได้เตือนให้เกษตรกรลดการปลูกพืชที่ใช้น้ำมาก หรือปลูกข้าวนาปรัง เพราะคาดว่าปัญหาภัยแล้งอาจมีความรุนแรงสูง รัฐบาลจึงต้องเตรียมมาตรการมารองรับ และบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อเกษตรกร แต่ต้องพิจาณาความช่วยเหลือให้เหมาะสม
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า กระทรวงการคลัง จะมีมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปีนี้ด้วยการให้บุคคลธรรมดานำรายจ่ายค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการในระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.58 จากผู้ประกอบกิจการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม มาหักเป็นค่าลดหย่อนในภารคำนวณภาษีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ไม่รวมถึงการซื้อสุรา เบียร์ ไวน์ ยาสูบ น้ำมัน และก๊าซสำหรับเติมยานพาหนะ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ เรือ โดยผู้มีเงินได้ต้องมีหลักฐานการซื้อสินค้า หรือรับบริการเป็นใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบตามมาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร