เลย - ปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ใหม่ ส่งผลดีต่อตลาดรถยนต์ไตรมาสสุดท้ายในจังหวัดเลย ยอดขายกลับมาคึกคัก ดีลเลอร์ฮอนด้ายิ้มแก้มปริ เผยยอดขายเดือนสุดท้ายโตขึ้นกว่า 25% เหตุลูกค้ารีบจองซื้อก่อนราคารถยนต์ปรับขึ้นปีหน้า คาดปีหน้ายอดขายยังโต แม้ราคาจะปรับขึ้น
จากการที่รัฐบาลจะมีการปรับอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถยนต์ในอัตราใหม่ที่สูงขึ้นตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2559 เป็นต้นไป โดยรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีราคาที่สูงขึ้น กระตุ้นให้ผู้บริโภคเร่งการตัดสินใจซื้อรถยนต์ง่ายขึ้น ภายในสิ้นปี 2558 ส่งผลดีต่อบรรยากาศการจำหน่ายรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดเลยเช่นเดียวกัน แต่ละโชว์รูมมีลูกค้าเข้ามาเลือกและจองซื้อรับสิทธิราคาเดิมกันอย่างคึกคัก
นายนิพัทธ์กรณ์ ด่านวิบูลย์ ผู้จัดการสาขาบริษัท เมืองเลยฮอนด้าคาร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ในจังหวัด ตั้งแต่ต้นปีมาทรงตัวใกล้เคียงกับปีที่แล้ว แต่ในช่วงไตรมาสุดท้ายของปี ตั้งแต่ ต.ค.-พ.ย.ปรับตัวดีขึ้นมาก ยอดขายโตขึ้นประมาณ 25% และคาดว่าในเดือนธันวาคมนี้ยอดขายจะเติบโตดีต่อเนื่อง ขณะเดียวกันแม้ว่าช่วงหลังปีใหม่จะปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต อาจทำให้ยอดจำหน่ายลดลงบ้าง แต่ก็มีปัจจัยบวกเสริม คาดว่าตลาดจะค่อยๆเติบโตไปได้แต่ไม่สูงมาก
ขณะที่ภาพรวมยอดขายสะสมของฮอนด้า (ม.ค.-พ.ย. 57) เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น 7% สวนทางกับตลาดรถยนต์โดยรวมที่ลดลง 13.56% ในแง่ปริมาณยอดขายตลาดรถยนต์โดยรวมอาจลดลงเหลือ 770,000-780,000 คัน ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อช่วงต้นปี ที่คาดการณ์ว่าจะมียอดขายถึง 1.15 ล้านคัน ซึ่งยอดขายฮอนด้าถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้เมื่อเทียบกับปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยฮอนด้าได้ปรับเป้าการจำหน่ายปีนี้ไว้ที่ 110,000 คัน
นายนิพัทธ์กรณ์กล่าวถึงยอดขายรถยนต์ของเมืองเลยฮอนด้าคาร์ว่า คาดว่ายอดขายปีนี้จะสูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 5% โดยเฉพาะ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้มียอดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะยอดขายเดือนธันวาคมสูงกว่าเดือนที่ผ่านมาประมาณ 25% ตามโครงสร้างภาษีใหม่ที่จะปรับขึ้นในปีหน้า เร่งการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ส่วนผลกระทบปีหน้าจากการปรับภาษีใหม่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นนั้น โดยรวมราคารถยนต์ใหม่จะเพิ่มขึ้นจะส่งผลกระทบต่อราคารถยนต์ฮอนด้าบางรุ่น ทั้งนี้ ฮอนด้าพยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมให้อยู่ในเกณฑ์ของภาษีที่จะส่งผลกระทบต่อราคาน้อยที่สุด