โบรกฯ เผย “ADVANC” ไม่กล้าสู้ราคาประมูล อ้างราคาสูงอาจไม่คุ้มทุน เผยเตรียมนำเงินที่พลาดจากการประมูลมาพัฒนาระบบ fixed broadband data ที่มีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังรักษาฐานลูกค้าเปลี่ยนผ่าน 2G กว่า 11 ล้านเลขหมาย ไปยังระบบใหม่ราบรื่น จ่อเจรจาเช่าสัญญาณจากTOT หวั่นดีลล้ม ลูกค้าย้ายหนี
นายศุภชัย วัฒนวิเทศกุล นักวิเคราะห์จากบริษัมหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MBKET กล่าวว่า จากการที่ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC ไม่สามารถประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ในระบบ 4G ได้นั้น โดยบริษัทฯ ยอมรับว่าเนื่องจากไม่สามารถสู้ราคาประมูลที่สูงเกินกว่าเพดานที่บริษัทตั้งไว้ได้ จึงมองว่าอาจไม่คุ้มค่าต่อผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุนที่มีมูลค่าสูงเกินกว่าค่าเฉลี่ยที่วางไว้ จึงไม่สู้ราคาประมูลต่อ
อย่างไรก็ตาม แม้ ADVANC จะพลาดจากการเป็นผู้ประมูลได้ใบอนุญาต 900 MHz ในระบบ 4G แต่ยังคงเดินหน้าพัฒนาโครงข่ายในระบบ 2G ที่มีอยู่เดิมกว่า 11 ล้านเลขหมาย ซึ่งหมายถึงเม็ดเงินรายได้ที่มีกว่า 17,000 ล้านบาทต่อปี (ประมาณ 15% ของรายได้ปัจจุบัน) โดยจะนำเงินสมทบในส่วนที่พลาดจากการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz มาพัฒนาระบบ fixed broadband data ที่มีแนวโน้มการใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในปัจจุบันยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้ใช้
ขณะเดียวกัน ทาง ADVANC เชื่อมั่นว่า แม้จะพลาดจากการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ก็ตาม แต่ในระยะยาวจะยังสามารถรักษาฐานลูกค้า และสร้างเชื่อมั่นของลูกค้าเดิมที่มีอยู่ได้ โดยได้เตรียมที่จะเจรจาเพื่อทำสัญญาเช่าคลื่นความถี่จาก TOT ภายในต้นเดือนหน้า เพื่อรองรับความต้องการการใช้บริการของลูกค้าในอนาคต บนประมาณการใหม่ที่รวมผลของการอุดหนุนค่าเครื่อง 2G
แต่กระนั้นประเมินว่า หาก ADVANC ได้คลื่นจาก TOT ตามคาด ADVANC จะยังคงรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ได้จนกว่าจะถึงการประมูลรอบหน้า อีกทั้ง ADVANC จัดเป็นหุ้นที่มีปันผลดีโดยผลตอบแทน yield ประเมินค่าเฉลี่ยที่ระดับ 7% ในอีก 3 ปีข้างหน้า
ขณะเดียวกัน สิ่งที่เป็นความกังวลในระยะสั้นสำหรับ ADVANC คือ จะต้องทำทุกทางเพื่อหาทางรักษาลูกค้าที่มีอยู่ให้ได้มากที่สุด และย้ายฐานลูกค้าจากระบบเดิมไปยังระบบใหม่ โดยบริษัทวางแผนที่จะปิดบริการ 2G และจะพยายามกระตุ้นรายได้เพื่อหาเงินสมทบเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการย้ายไปยังมือถือ 3G ให้ลูกค้าที่ค้างอยู่ให้ได้มากที่สุด โดยบริษัทฯคาดว่าจะต้องใช้เงินในกระบวนการย้ายระบบดังกล่าวเฉลี่ยที่ 700 บาท/เครื่อง หากคูณจำนวนฐานลูกค้า เท่ากับส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นประมาณ 7,000 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งใจจะรักษาฐานลูกค้าให้ได้ทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม ADVANC อ้างว่าจะได้ค่ารักษาตามระยะเวลาเพิ่มจาก กสทช. เพื่อทำการย้ายฐานลูกค้า อย่างน้อยอีก 90 วัน และจะย้ายฐานลูกค้าส่วนใหญ่ได้ภายในระยะเวลาดังกล่าว ซึ่งประเด็นนี้ยังคงมีความน่ากังวล เนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนที่ออกมาจาก กสทช. (การกระทำดังกล่าวจะทำให้ TRUE ที่ชนะการประมูลเสียผลประโยชน์บางส่วน) และประเด็นสำคัญคือ โอกาสน้อยที่ ADVANC จะสามารถทำได้สำเร็จทั้งหมด เนื่องจากข้อจำกัดด้วยเวลาที่กระชั้นชิด
ในขณะที่กรณีพิพาทกับ TOT เรื่องเสาส่งสัญญาณนั้นก็มีแนวโน้มที่จะจบลงเร็วๆ นี้ด้วย ในลักษณะการจ่ายค่าเช่าไปก่อน หลังจากนั้น อาจจะตั้งบริษัทร่วมทุน (JV) กันภายหลัง ซึ่งหากไม่ได้คลื่นเพิ่ม หรือดีลเจรจาคลื่นจาก TOT ไม่สำเร็จก็ถือเป็นความเสี่ยงใหญ่ ถึงแม้ ADVANC จะมีแนวโน้มสูงที่จะได้คลื่น 2100MHz มาเพิ่มจาก TOT (บอร์ทบริหาร TOT อนุมัติแล้ว) เมื่อได้มาแล้ว ADVANC จะต้องเร่งลงทุนโครงข่ายครั้งใหญ่บน 4G ให้เร็ว เพื่อป้องกันตัวเองจาก TRUE ที่จะมีความเร็วเหนือกว่าบน 4G AIS เนื่องจากลูกค้าชั้นดีส่วนใหญ่รอคอยบริการที่ดีขึ้นของ ADVANC มาเป็นเวลานาน หากทำไม่ได้มีโอกาสที่ ADVANC จะเริ่มเสียลูกค้าระดับสูง เช่น องค์กร ลูกค้ารายเดือนระดับสูง หรือ SERENADE ในระยะในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า (ซึ่งเป็น downside ของประมาณการ)
