ทรู เตรียมนำแนวคิดสมาร์ทดิจิตอลไลฟ์เข้าสู่ลูกค้า หวังยกระดับการใช้งานดิจิตอลให้เป็นมากกว่าการสื่อสาร แต่ยังช่วยการใช้ชีวิตให้ง่ายขึ้น เผยพร้อมประมูล 4G ในทุกคลื่นความถี่ เพราะการมีคลื่นมากจะช่วยสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจได้มาก ชี้ราคาประมูลของไทยยังแพงเกินไปเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน แต่คาดว่าหลังประมูลแล้วการแข่งขันจะรุนแรงขึ้นแน่นอน
นายศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู ได้นำเสนอแนวคิดสมาร์ทดิจิตอลไลฟ์ ด้วยการนำเทคโนโลยีที่จะช่วยยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของไทยให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้านที่เจริญแล้ว โดยมุ่งเน้นการใช้งานดิจิตอลให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้น ผ่านโครงสร้างพื้นฐานของทรูที่ได้ทำการลงทุนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อินเทอร์เน็ตไร้สายผ่านมือถือ และการขยายเครือข่ายต่างๆ เพิ่มเติมเพื่อสามารถสร้างบริการใหม่ๆ
ทั้งนี้ ทรูกำลังเริ่มสร้างการรับรู้ในเรื่องของการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้มากกว่าเป็นการเชื่อมต่อด้านการสื่อสารเพียงอย่างเดียว ให้สามารถนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเทคโนโลยีอย่าง Machine to Machine (M2M) ที่จะใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตเชื่อมเข้ากับอุปกรณ์ และเครื่องมือต่างๆ ในการเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนยุคดิจิตอลให้สะดวกสบาย และสมาร์ทมากขึ้น และจะมีบริการใหม่ๆ ออกมาตอบโจทย์ได้มากขึ้นอีกในอนาคต
“ทางด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับกับดิจิตอลไลฟ์นั้น ทรู มีความพร้อมทั้งเงินทุน และการเตรียมการต่างๆ เพื่อเข้าร่วมประมูล 4G ทั้งคลื่นความถี่ 1800 MHz และคลื่นความถี่ 900 MHz ที่จะจัดประมูลในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยเงินลงทุนที่เตรียมไว้สำหรับการประมูลในครั้งนี้จะมาจากแหล่งเงินทุนทุกด้าน ขณะเดียวกัน บริษัทก็มีความสนใจคลื่นความถี่ทั้ง 2 คลื่น เนื่องจากคลื่นความถี่มีความจำเป็นต่อการให้บริการไร้สายความเร็วสูง ดังนั้น เมื่อมีคลื่นจำนวนมากก็จะสามารถให้บริการได้มากขึ้น”
นายศุภชัย กล่าวว่า ทรูมองว่าคลื่นความถี่มีความจำเป็นต่อธุรกิจนี้ โดยปัจจุบันบริษัทมีคลื่นความถี่ 2.1 GHz จำนวน 15 MHz และมีการซื้อความจุคลื่น 850 MHz จาก CAT 80% เพื่อให้บริการ 3G แต่ทั้งนี้ ทรูเห็นว่าราคาเริ่มต้นการประมูลต่อ 1MHz ค่อนข้างสูงไป โดยสูงกว่าเท่าตัวเมื่อเปรียบเทียบกับราคาเริ่มต้นการประมูลในภูมิภาคเอเชีย เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม
ทั้งนี้ คาดว่าภายหลังจากการประมูลเสร็จสิ้น และผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทุกรายสามารถเปิดให้บริการ 4G ในปี 2559 ได้อย่างเต็มที่แล้ว จะเกิดการแข่งขันอย่างรุนแรงในตลาด 4G ซึ่งบริษัทก็มีการออกกลยุทธ์เพื่อรองรับการแข่งขันไว้แล้ว ภายใต้แนวคิด “Together, Smarter” หรือใช้ชีวิตให้สมาร์ทขึ้น ใกล้ชิดกันมากขึ้น เพื่อยกระดับชีวิตคนเมืองสู่สังคมดิจิตอลอย่างแท้จริง