1.ธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยในรอบ 9 ปี เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเสียทีหลังปล่อยให้ดอกเบี้ยต่ำมาตั้งแต่ปี 2006 ผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยทำให้ตลาดการเงินโลกปั่นป่วนตลอดทั้งปี โดยเฉพาะกระแสเงินไหลออกจากกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ค่าเงินบาทไทยก็อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์
คาดว่าปีหน้า...ถ้าเศรษฐกิจไม่มีอะไรแย่กว่านี้ เฟดจะทยอยขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อยๆ อีก 4 ครั้งในปีหน้าตามที่ประธานเฟดระบุไว้
2.ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดำดิ่งเป็นประวัติการณ์ ถือเป็นปีขาลงของราคาน้ำมันโลกอย่างแท้จริง จากต้นปีราคาน้ำมันยังอยู่ที่ระดับ 100 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ด้วยเศรษฐกิจโลกที่ไม่เติบโต และชาติยักษ์ใหญ่ในกลุ่มโอเปกไม่ยอมลดกำลังผลิตน้ำมันลง ทำให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัปพลาย และยังฉุดสินค้าโภคภัณฑ์อื่นทั้ง Soft และ Hard Commodity ร่วงลงมาต่ำกว่าระดับเดียวกับสมัยวิกฤตซับไพรม์ ส่วนราคาทองคำก็ลงมาต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี ที่ 1,050 เหรียญต่อออนซ์
คาดว่าปีหน้า...บางสำนักออกมาคาดการณ์ว่า จุดต่ำสุดของราคาน้ำมันจะอยู่ที่ 20 เหรียญต่อบาร์เรล บางสำนักคาดว่าปีหน้าจะเป็นจุดต่ำสุด และเป็นปีของการสร้างสมดุลราคาใหม่ กว่าจะกลับเป็นขาขึ้นคงเป็นปี 2560
3.เงินหยวนจีนถูกนำเข้าสู่ตะกร้าเงินโลก เงินหยวนของจีนได้รับการยอมรับให้เป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าเงิน SDR ของไอเอ็มเอฟเป็นที่เรียบร้อย ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างบทบาทใหม่ของเงินหยวนในเวทีการเงินระดับโลก
คาดว่าปีหน้า...เงินหยวนน่าจะมีบทบาทประมาณ 10%ของตะกร้าเงิน SDR โดยจะมาแทนที่เงินยูโร ปอนด์ และเยน ส่วนเงินดอลลาร์คาดว่าจะมีสัดส่วนลดลงไม่มากนัก
4.แห่ลดค่าเงินดันสงครามค่าเงินโลก ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ธนาคารกลางขนาดใหญ่ของโลกอื่นๆ อย่าง ธนาคารกลางยุโรป ธนาคารกลางญี่ปุ่น และธนาคารกลางจีน ได้ทยอยลดดอกเบี้ยสวนทางเพื่อที่จะกดค่าเงินให้อ่อนลงเพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบในการส่งงอก รวมถึงมาตรการเสริมสภาพคล่องในตลาดการเงิน เช่น พยุงตลาดหุ้น
คาดว่าปีหน้า...ธนาคารกลางยุโรป และญี่ปุ่น น่าจะยังมีมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องออกมาอีก โดยได้ระบุแผนงานในรายงานการประชุม
5.วิกฤตตลาดหุ้นจีน ความวิตกถึงการเติบโตของเศรษฐกิจจีนทำให้ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ถูกเทขายอย่างหนักในช่วงกลางปี และยังส่งผลกระทบไปถึงตลาดหุ้นทั่วโลก รวมถึงตลาดหุ้นไทย ทำให้ทางการจีนต้องออกมาออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น แม้ความมั่งคั่งในตลาดหุ้นของคนจีนจะลดลง แต่ถือว่ายังมีส่วนน้อยต่อจีดีพีเมื่อเทียบกับความมั่งคั่งในอสังหาริมทรัพย์
คาดว่าปีหน้า...ตลาดหุ้นจีนน่าจะทรงตัวแต่ยังไม่มีความแน่นอนว่าจะปรับตัวเป็นขาขึ้นได้หรือไม่
6.เส้นตายหนี้กรีซ กรีซ มีการเลือกตั้งครั้งใหม่โดยได้ผู้ชนะเป็นพรรคการเมืองที่มีนโยบายไม่เห็นด้วยต่อมาตรการรัดเข็มขัดของธนาคารกลางยุโรป ทำให้เกิดความวิตกกังวลไปทั่วโลกว่าการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก แต่ผลที่เกิดขึ้นก็มีผลเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
คาดว่าปีหน้า...ยังต้องติดตามต่อว่ากรีซจะมีความสามารถในการชำระหนี้ได้มากน้อยเพียงใด ตลาดการเงินจะผันผวนทุกครั้งที่ถึงกำหนดใช้หนี้ของกรีซ
ปีหน้าคงจะเป็นปีที่ยากลำบากอีกปีของตลาดการเงินโลก นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก และอย่าลืมบริหารความเสี่ยงให้ดีนะครับ
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง