โบรกฯ คาดการประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ชี้ชะตาอนาคตกลุ่มผู้ประกอบการโทรคมนาคม จากปริมาณความต้องการของผู้ใช้ที่เพิ่มมากขึ้น หากมีไม่เพียงพออาจทำให้เสียฐานลูกค้าย้ายค่ายไปหาผู้บริการที่มีศักยภาพรองรับได้มากกว่า
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย กล่าวว่า การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ในระบบ 4G จะเป็นการลงทุนที่ชี้ชะตาบริษัทผู้ประกอบกิจการด้านการสื่อสาร เนื่องจากในอนาคตรูปแบบการใช้งานระบบโทรคมนาคมจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะประชาชนจะมีความต้องการใช้งานข้อมูลความเร็วสูงมากขึ้น การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ในระบบ 4G ครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการชี้ชะตาอนาคตของการดำเนินธุรกิจการสื่อสาร ผู้ให้บริการจึงจำเป็นที่จะต้องต่อสู้แข่งขันกันในด้านราคาอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้สิทธิใบอนุญาติในการใช้คลื่นความถี่ดังกล่าว
“ผู้ให้บริการระบบการสื่อสาร 4 ค่ายที่เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้ต้องเคาะประมูลเพื่อแข่งขันอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้ใบอนุญาตมา โดยเฉพาะค่ายใหญ่ๆ เช่น DTAC ที่ต้องต่อสู้ประมูลใบอนุญาตครั้งนี้มาให้ได้ เพราะสัญญาการสัมปทานในคลื่นความถี่ 1800 MHz และ 850 MHz จะหมดสัญญาภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ขณะที่คลื่นความถี่ 2100 MHz ระบบ 3G จะหมดสัญญาในอีก 11 ปี ซึ่งแนวโน้มในอนาคตจากปริมาณการใช้ของประชนที่เพิ่มขึ้น ใบอนุญาตเพียงคลื่นความถี่เดียวอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งจะต้องมีการแบ่งกันทั้งระบบ 4G และ 3G และถ้าหากมีไม่เพียงต่อความต้องการของผู้ใช้ ก็จะกระทบต่อผลประกอบการ เพราะจะมีการโอนย้ายเบอร์ไปยังค่ายอื่นที่มีศักยภาพรองรับได้มากกว่า”
อย่างไรก็ตาม การประมูลครั้งนี้มองว่า หาก ADVANC และ TRUE ได้ จะทำให้หุ้นของ DTAC และ TRUE ปรับตัวลดลง แต่ JAS จะไม่ปรับตัวลดลงถึงแม้จะไม่สามารถประมูลได้ แต่ปัญหาที่จะตามมาหลังจากนั้นคือ ความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อผลประกอบการของบริษัท เนื่องจากวงเงินการประมูลมีมูลค่าสูง อาจทำให้รายได้ และกำไรจากการดำเนินธุรกิจที่เกิดขึ้น บริษัทฯ จะต้องนำไปจ่ายค่าประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งจะส่งผลต่อเงินปันผลที่จะได้รับอาจต้องนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการขยายโครงข่ายคลื่น 900 MHz