คอลลิเออร์ คาดการณ์ตลาดอสังหาฯ ปี 59 ทรงตัวต่อเนื่อง เชื่อครึ่งปีแรกผู้ประกอบการชะลอแผนลงทุนรอดูสถานการณ์ตลาด ประเมินกำลังซื้อ คาดคอนโดฯ เปิดใหม่ปี 59 ราว 37,000 ยูนิต หวังลงทุนภาครัฐหนุนเศรษฐกิจโต ฉุดอสังหาฯ ฟื้น ปี 59 ทาวน์เฮาส์พระเอก
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2558 อาจจะไม่ร้อนแรงเทียบเท่ากับ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมที่มีโครงการเปิดขายใหม่ ประมาณ 37,180 ยูนิตเท่านั้น น้อยกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 25% ที่มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ราว 50,000 ยูนิต นอกจากนี้ อัตราการขายของโครงการเปิดขายใหม่เหล่านี้ก็ไม่ได้มากเช่นกันคือ อยู่ที่ประมาณ 60%
ในปี 2558 สถานการณ์ตลาดคอนโดฯ ที่น่าสนใจ คือ มีโครงการที่มีราคามากกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร (ตร.ม.) ขึ้นไปเปิดขายมากขึ้น โดยมีสัดส่วนมากกว่า 11% ของจำนวนยูนิตที่เปิดขายในปี 2558 อีกทั้งยังได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ซื้อทั้งชาวไทย และต่างประเทศ ทำให้มีอัตราการขายประมาณ 74% สูงกว่าโครงการราคาขายต่ำกว่า 100,000 บาทต่อ ตร.ม.ค่อนข้างมาก
อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังคงรักษาสัดส่วนการลงทุนในโครงการระดับราคาต่ำกว่า 100,000 บาทต่อ ตร.ม. เพราะเป็นตลาดที่มีกลุ่มผู้ซื้อใหญ่ที่สุด ดังนั้น สัดส่วนของคอนโดมิเนียมราคานี้จึงสูงกว่า 61% ของจำนวนยูนิตทั้งหมดที่เปิดขายในปี 2558 แม้ว่ากลุ่มนี้อาจจะมีบางส่วนที่ติดปัญหาในเรื่องของการโอนกรรมสิทธิ์มาก่อนหน้านี้ก็ตาม
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการหลายรายพยายามหาทางขยายตลาดผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อสูงมากขึ้น โดยการเปิดขายโครงการบ้านจัดสรรที่มีราคาขายมากกว่า 20 ล้านบาทต่อยูนิตมากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลที่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าบนถนสุขุมวิท รัชดาภิเษก พระราม 3 ซึ่งหลายโครงการขายหมด หรือมีอัตราการขายสูงในเวลาไม่นาน แม้ว่าบางโครงการจะเริ่มที่ราคาขายมากกว่า 35 ล้านบาทต่อยูนิตก็ตาม
สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 คาดว่าจะยังคงไม่ได้แตกต่างจากปีนี้มากนัก คือ มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่ในจำนวนใกล้เคียงกับปีนี้ หรือประมาณ 40,000 ยูนิต ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ แต่อัตราการขายอาจจะดีขึ้นตามความเชื่อมั่นของคนในประเทศที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นมาตลอดช่วง 1-3 เดือนก่อนสิ้นปี และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องต่อไปในปี 2559 แต่ผู้ประกอบการอาจจะขอรอดูสถานการณ์ของกำลังซื้อในช่วงครึ่งแรกของปี 2559 ก่อน จึงพิจารณาถึงการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีต่อไป จึงอาจทำให้ตลาดคอนโดมิเนียมในปี 2559 ไม่ได้ดีกว่าปีนี้มากนัก
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่สำคัญที่อาจจะทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งตลาดอสังหาริมทรัพย์ดีขึ้นคือ การลงทุนโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ซึ่งจะทำให้เงินลงทุนกระจายออกไปสู่ส่วนต่างๆ และสร้างรายได้ให้แก่คนจำนวนมาก ซึ่งจะกลับมาสู่ภาคธุรกิจต่างๆ อีกต่อหนึ่ง ผู้ประกอบการรายใหญ่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดที่อยู่อาศัย โครงการบ้านจัดสรรอาจจะมีจำนวนโครงการใหม่เปิดขายมากขึ้น เพราะเป็นตลาดของผู้ที่ต้องการซื้อเพื่ออยู่เองมากกว่า และปิดการขายได้เร็วกว่า อีกทั้งใช้เวลาในการก่อสร้างไม่นานทำให้ผู้ประกอบการรับรู้รายได้เร็ว
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยต่างจังหวัดยังคงต้องอาศัยกำลังซื้อของคนในพื้นที่เป็นหลัก เช่น ในจังหวัดใหญ่ หรือว่าหัวเมืองรอง ที่ตลาดบ้านจัดสรรมีแนวโน้มที่ดีกว่าคอนโดมิเนียมค่อนข้างมาก แต่อัตราการขายก็ขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจ และราคาสินค้าเกษตร ยกเว้นเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่ยังคงขายได้ต่อเนื่อง แต่อัตราการขายอาจจะไม่สูงมากนักเหมือนเมื่อ 1-2 ปีก่อนหน้านี้ เรียกได้ว่าปีหน้าเป็นปีของที่อยู่อาศัยแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ที่เป็นเสมือนเรือธงของผู้ประกอบการหลายรายทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด