xs
xsm
sm
md
lg

หุ้นไทยปี 59 จะเป็นอย่างไรต่อไป?

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ต้องออกตัวก่อนครับว่ามุมมองที่มีต่อตลาดหุ้นไทยของผมถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลจากประสบการณ์ในตลาดหุ้นมาเป็นเวลา 10 ปี นักลงทุนที่อ่านบทความของผมบทนี้ต้องรับฟังข้อมูลจากแหล่งอื่นมาประกอบการตัดสินใจด้วยนะครับ เหตุผลที่ผมยกขึ้นมาอ้างอิงทิศทางตลาดหุ้นจะนำมาจากเหตุผลเชิงเศรษฐศาสตร์ และสถิติเก่าย้อนหลังเป็นหลัก

ปีนี้ถือว่าตลาดหุ้นไทยเป็น “ขาลง” อย่างเต็มตัว จากต้นปี SET Index ยังอยู่ที่ระดับ 1,600 จุดอยู่เลย เท่ากับว่าถึงเวลานี้หุ้นไทยปรับตัวลงมาแล้วกว่า 300 จุด จากจุดสูงสุด

หากใช้หลักสถิติที่อธิบายวงจรของเศรษฐกิจทุกๆ 5 ปีจะเกิดการ “เปลี่ยนทาง” ของเศรษฐกิจ และตลาดหุ้น เช่น หากหุ้นเป็นขาขึ้นมา 5 ปี ปีที่ 6 ก็จะเริ่มเป็นขาลง อาจจะชั่วคราว หรือเปลี่ยนทางไปเลย เมื่อเราดูภาพของ SET Index เริ่มเป็นขาขึ้นตั้งแต่ปี 2009 หลังวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ พอถึงปี 2014 กินระยะเวลา 5 ปี ตลาดหุ้นก็เริ่มทรงๆ ทรุดๆ ไม่สร้างจุดสูงสุดใหม่ จนปีนี้ตลาดหุ้นก็เป็นขาลงเต็มตัว สถิติที่ว่าทุก 5 ปีจะมีจุดเปลี่ยนทางเศรษฐกิจจึงสามารถนำมาอธิบายได้

คราวนี้เมื่อเราเดินมาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อว่าหุ้นไทยปีหน้าจะเป็นเพียงแค่พักฐานชั่วคราว หรือได้เวลาเปลี่ยนเป็นขาลงแล้ว ต้องขึ้นอยู่กับว่าเศรษฐกิจของเราจะฟื้นตัวได้หรือไม่ ซึ่งมีปัจจัยที่ต้องจับตามองดังนี้
นเรศ เหล่าพรรณราย
ภาคการส่งออก..เศรษฐกิจโลกฟื้นจริงหรือไม่ เศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ว่าฟื้นตัวจะกลับมาเป็นผู้บริโภครายใหญ่ได้อีกไหม แล้วการกีดกันสินค้าจากประเทศไทยจะยังมีอยู่หรือไม่

การจับจ่ายของประชาชน..หนี้ภาคครัวเรือนที่สูงจะลดลงได้ไหม ผู้คนจะกล้าใช้จ่ายอยู่หรือเปล่า

การลงทุนภาครัฐ..การเบิกจ่ายงบประมาณจะทำได้ดีแคไหน โครงการลงทุนขนาดใหญ่จะเดินหน้าได้จริงไหม ถ้าภาครัฐไม่เป็นตัวนำกระตุ้นเศรษฐกิจ จะหวังเติบโตก็คงยาก

การลงทุนภาคเอกชน..ดูจะน่าเป็นห่วงสุดๆ หลายอุตสาหกรรมดูจะไม่มีแผนธุรกิจเชิงรุกกันเลย ถ้าการบริโภคไม่ดีขึ้น เอกชนคงเน้นแผนปลอดภัยไว้ก่อน

ส่วนตัวผมเคยนั่งคิดเล่นๆ ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเศรษฐกิจไทยจะ “ติดหล่ม” อะไรสักอย่างก็น่าจะเป็นปัญหาจาก “หนี้ภาคครัวเรือน” นี่แหละจากการใช้จ่ายในช่วง 3-4 ปีย้อนหลังที่ดูสูงเกินตัว ทั้งนโยบายบ้านหลังแรก รถคันแรก แถมปีนี้ยังมีเรื่องภัยแล้งเข้ามาอีกทำให้รายได้ของเกษตรกรลดลงไปอย่างมาก

อาจมีคนตั้งคำถามว่า ทำไมหนี้ครัวเรือนสูงแต่ธุรกิจนาโนไฟแนนซ์กลับเติบโต (เช่น หุ้น SAWAD, MTLS) ข้อมูลจากหอการค้าไทยก็บอกครับว่า ตอนนี้หนี้นอกระบบของคนไทยสูงกว่าหนี้ในระบบไปแล้ว เป็นไปได้ไหมครับว่าจะกู้หนี้ตรงนี้ไปโปะนอกระบบ น่าคิดนะครับถ้าเป็นจริงนี่น่ากลัวใช่น้อย และที่สำคัญสินเชื่อพวกนี้ถือเป็นตลาดใหม่ของคนที่ไม่เคยกู้เงินได้มาก่อนนะครับ การที่สินเชื่อจะได้รับความนิยมก็ไม่น่าแปลก ต้องจับตาครับว่าจะเป็นฟองสบู่หรือไม่

สรุปก็คือ มุมมองของผมปีหน้าตลาดหุ้นจะทรงๆ ตัวไปอีกปีถ้าปัญหาทางเศรษฐกิจที่กล่าวมาได้รับการกระตุ้นให้ดีขึ้น แต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นผมคิดว่าปีหน้าจะเป็นขาลงได้อย่างเต็มตัว..เพราะประเทศไทยกำลังติดหล่มสำคัญที่จะสร้างปัญหาให้เศรษฐกิจในระยะยาว 5-10 ปีข้างหน้า จะเป็นอะไรติดตามตอนต่อไปครับ

นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง


กำลังโหลดความคิดเห็น