พลัสฯ เผยผลวิจัยพบ 3 ใน 4 ผู้ใช้รถไฟฟ้าไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ระบุห้องชุดระดับราคา 2.5 ล้านบาท ย่านอ่อนนุช เป็นสินค้าที่ผู้บริโภคต้องการซื้อห้องชุดมากที่สุด ชี้แนวโน้มผู้บริโภคบางส่วนเริ่มต้องการที่อยู่อาศัยชั้นนอกของเมืองเพิ่มสูงขึ้น คาดตลาดรวมในปี 59 เติบโต 10% เท่ากับปี 58
นายภูมิภักดิ์ จุลมณีโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า จากการสำรวจความต้องการคอนโดมิเนียมจากผู้บริโภคในกลุ่มคนทำงานผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวเข้ม และสีเขียวอ่อน พบว่า กลุ่มผู้บริโภคที่ทำงานในพื้นที่ใกล้แนวรถไฟฟ้า และใช้บริการช่วงอายุ 25-35 ปี เริ่มต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลพื้นที่ชั้นนอกของเมืองมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงต้องการมีที่อยู่อาศัยใกล้รถไฟฟ้า
โดยที่อยู่อาศัยที่ต้องการจะต้องมีระยะทางไม่ห่างจากที่ทำงาน 9-10 กิโลเมตร หรือใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 30 นาที และมีระยะห่างจากรถไฟฟ้าไม่เกิน 500 เมตร โดยราคาที่ต้องการอยู่ที่ 2.5 ล้านบาท ซึ่งอาจขยับได้ถึง 3-4 ล้านบาท ซึ่งขนาดห้องที่ต้องการคือ ประมาณ 35-40 ตารางเมตร ทั้งนี้ พบว่ามากกว่า 75% ยังไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง หรือราวครึ่งหนึ่งเช่าหอพัก หรืออพาร์ตเมนต์อยู่ จึงประเมินได้ว่ายังมีความต้องการคอนโดฯ ติดรถไฟฟ้าเป็นจำนวนมากจากผู้ที่ต้องการซื้อเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย
สำหรับทำเลที่เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าสายสีเขียวก็คือ “อ่อนนุช” ที่มีสถานีอ่อนนุช เป็นที่หมายปลายทางของรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัจจุบัน มีส่วนต่อขยายมาจากสถานีอ่อนนุช ยาวจนถึงสถานีแบริ่ง ซึ่งครบครันด้วยการเดินทางที่สะดวกด้วยการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าทำให้สามารถเข้าสู่พื้นที่สุขุมวิทชั้นในได้ในระยะเวลาอันสั้น และราคาห้องชุดที่ต่ำกว่าสุขุมวิทชั้นใน
นอกจากนี้ ตลาดเช่าที่เป็นชาวต่างชาติ เช่น จีน สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ฯลฯ ได้ให้ความสนใจทำเลอ่อนนุชเพิ่มขึ้นเช่นกัน ปัจจุบันราคาปล่อยเช่าคอนโดฯ ในย่านอ่อนนุชขยับตัวขึ้นไปถึง 13% ในปี 2557 มาอยู่ที่ค่าเช่าเฉลี่ย 458.89 บาทต่อตารางเมตร หรือประมาณ 20,000 บาทต่อเดือน ในห้องชุดรูปแบบ 1 ห้องนอน ซึ่งนับว่าเป็นอัตราค่าเช่าที่ถูกกว่าบริเวณใกล้เคียงกัน เช่น ทองหล่อ เอกมัย ส่วนราคารีเซลในพื้นที่นี้ราคาเพิ่มสูงขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันระหว่างปี 2556 และ 2557 มาอยู่ที่ราคาขายเฉลี่ย 89,573 บาทต่อตารางเมตร
นายภูมิภักดิ์ กล่าวว่า ตลอดปีนี้ซัพพลายในบริเวณอ่อนนุชไม่ได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่มีดูดซับไปมากโดยเฉพาะคอนโดฯ ที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาฯ ซึ่งพบว่าในช่วงไตรมาส 4 มีการโอนเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว อย่างไรก็ดี เห็นว่าความต้องการที่อยู่อาศัยโดยเฉพาะคอนโดฯ ตามสายสีเขียวเข้ม และสีเขียวอ่อนยังคงมีอยู่มาก ทั้งนี้ ยังสามารถขยายตลาดไปได้กว้างขึ้นตามแนวรถไฟฟ้าที่ขยายออกไปสู่เมืองชั้นนอก เพราะผู้บริโภคเห็นว่าสามารถเดินทางได้สะดวก ดังนั้น จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผู้ประกอบการที่จะพัฒนาโครงการโดยราคาควรตั้งต่ำกว่า 3 ล้านบาท เพื่อให้อยู่ในระดับที่ซื้อได้ และคนกลุ่มนี้สามารถเป็นเจ้าของได้
สำหรับภาพรวมตลาดคอนโดฯ ในปีนี้คาดว่า จะมีการเติบโตที่ 10% และปี2559 การเติบโตจะใกล้เคียงกับปีนี้ซึ่งเป็นการเติบโตในแง่มูลค่ามากกว่าปริมาณ โดยการเปิดโครงการใหม่จะมีไม่มาก แต่จะเป็นการเร่งโอนกรรมสิทธิ์สำหรับโครงการที่สร้างเสร็จแล้วในมือมากกว่าซึ่งรวมไปถึงการรีเซลสินค้าที่อยู่ในมือซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 20% ในจำนวนนี้เกินกว่าครึ่งมีปัญหาเรื่องเครดิตที่สินเชื่อไม่ผ่าน ที่เหลือเป็นการเก็งกำไร ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการขายประมาณ 6 เดือน-1 ปี ทั้งนี้ ทำเลที่น่าจับตามองในปีหน้า เช่น พระราม 9 จตุจักร พญาไท สุขุมวิท ทองหล่อ เป็นต้น เนื่องจากเป็นทำเลที่น่าลงทุนที่นักลงทุนมองว่าสามารถเพิ่มมูลค่าได้ในอนาคต ซึ่งโปรดักต์จะเป็นกลุ่มบนโดยราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยมองว่าตลาดกลุ่มนี้ยังคงเติบโตแต่จะไม่คึกคักเท่าปีนี้