- ไนท์แฟรงค์ฯ เผย รัชดา-พระราม 9-ลาดพร้าว แหล่งฮอตสปอต พื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยวใหม่ในกรุงเทพฯ
น.ส.ริษิณี สาริกบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและที่ปรึกษา บริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เป็นพื้นที่ทางเลือกแก่ผู้ซื้อคอนโดมิเนียมในเขตเมือง เนื่องจากใกล้กับศูนย์ชอปปิ้งมากมาย และมีความสะดวกสบายจากการขนส่งที่เชื่อมโยงพื้นที่ใจกลางเมืองที่ร้อนแรงที่สุดคือ รัชดา-พระราม 9-เขตลาดพร้าว ซึ่งดูจะเป็นฮอตสปอตใหม่สำหรับพื้นที่เชิงพาณิชย์ และที่อยู่อาศัย และแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ
จากผลวิจัยของไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เขตรัชดา-พระราม 9-ลาดพร้าว เป็นพื้นที่ที่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปมาก หากคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ระบบขนส่งมวลชนแบบไร้รอยต่อ และยังเชื่อมต่อกับถนนใหญ่ไปสู่กลางใจเมือง ซึ่งส่งเสริมการขยายตัวอันแข็งแกร่งในทุกภาคส่วนของตลาดอสังหาริมทรัพย์ โครงการเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 ที่ก่อสร้างแล้วเสร็จได้เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่คนทำงาน หรือผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้ ตั้งแต่ปี 2009 ถึงช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จำนวนคอนโดมิเนียมมีเพิ่มมากขึ้นตลอดสายรัชดา-พระราม 9-ลาดพร้าว ซึ่งคิดรวมเป็น 41,370 ยูนิต และจำนวนประมาณ 35,881 ยูนิตถูกขายออกไปแล้ว อัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 86.7%
ขณะที่พื้นที่ใจกลางเมืองที่น่าสนใจอีกแห่ง คือ เขตพญาไท-พหลโยธิน มีจำนวนรวมโดยประมาณ 13,595 ยูนิต และจำนวนประมาณ 11,674 ยูนิตถูกขายออกไปแล้ว คิดเป็นอัตราขาย 85.9% พื้นที่นี้ยังจัดเป็นแหล่งสำนักงานจำนวนมาก ยกตัวอย่างเช่น บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ทำการพัฒนาสำนักงานในพื้นที่นี้เพื่อการใช้งานภายในของบริษัท ภายใต้ชื่อ “เพิร์ล แบงคอก” (Pearl Bangkok) อาคารสูง 25 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหน้าของถนนพหลโยธิน ซอย 5 บนถนนสายหลัก มีพื้นที่สำนักงานประมาณ 30,000 ตารางเมตร อาคารสำนักงานใหม่อีกแห่ง คือ ชินวัตรทาวเวอร์ 4 ซึ่งตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน ติดกับชินวัตรทาวเวอร์ 1 สำนักงานจะสร้างเป็นอาคารสูง 24 ชั้น มีพื้นที่สำนักงานให้เช่ารวม 10,000 ตารางเมตร
ทั้ง 2 อาคารเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะเพิ่มจำนวนความต้องการของคอนโดมิเนียมในพื้นที่นี้มากขึ้นอีก โครงการคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ เช่น “เดอะ โมนูเมนต์ สนามเป้า” (The Monument Sanampao) ซึ่งเปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ และมีรายงานว่าขายหมด โครงการคอนโดมิเนียมอีกแห่งหนึ่งคือ “เดอะ ไลน์” (The Line) ติดสถานีจตุจักร ซึ่งเปิดตัวไปในช่วงครึ่งแรกในปีนี้ และขายออกหมดเช่นกัน ทั้ง 2 โครงการได้รับการพัฒนาโดยบริษัท แสนสิริ จำกัด
ทั้งนี้ พื้นที่ใจกลางเมืองอีกแห่งที่น่าสนใจสำหรับโครงการคอนโดมิเนียม คือ ถนนเพชรบุรี ที่ตัดขนานกับถนนสุขุมวิท มีเพียงจำนวนเพียง 6,021 ยูนิต และจำนวนประมาณ 5,244 ยูนิตถูกขายออกไปแล้ว ซึ่งคิดเป็นประมาณ 87% ด้วยความใกล้กับเขตสุขุมวิท เขตเพชรบุรีเริ่มต้นการพัฒนาคอนโดมิเนียมในปี 2008; โครงการแรก คือ “เดอะ เซอร์เคิล คอนโดมิเนียม” (The Circle Condominium) ถูกพัฒนาโดยบริษัท เฟรเกรนท์ พร็อพเพอร์ตี้ จํากัด (Fragrant Group) ตั้งติดกับศูนย์การค้าขณะย่อมติดซอยเพชรบุรี 36 ในปี 2009 โครงการคอนโดมิเนียมอื่นๆ เช่น “ดิ แอดเดรส อโศก” (The Address Asoke) และ “วิลล่า อโศก” (Villa Asoke) เริ่มต้นการพัฒนาตามขึ้นมา ทั้ง 2 โครงการตั้งติดกับสถานีรถไฟฟ้าที่เชื่อมไปสู่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิที่มักกะสัน “ดิ แอดเดรส อโศก” ได้รับความประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ราคาขายโดยเฉลี่ยอยู่ในช่วงราคาที่ใกล้เคียงกับหลากหลายโครงการในเขตสุขุมวิท โดยมีราคาขายประมาณโดยเฉลี่ยมากกว่า 100,000 บาทต่อตารางเมตร ในปี 2009
“ถนนเพชรบุรีมีความน่าสนใจมากขึ้นหลังข่าวประกาศจากบริษัท สิงห์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เกี่ยวกับการพัฒนา “สิงห์ คอมเพล็กซ์” (Singh Complex) บนที่ดินประมาณ 11 ไร่ การพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสซึ่งจะประกอบด้วย อาคารสำนักงาน ห้องประชุม พื้นที่ค้าปลีก และโรงแรม โครงการนี้จะเพิ่มความต้องการด้านคอนโดมิเนียมในบริเวณนี้อย่างแน่นอน”
สำหรับเขตพระราม 3 จัดเป็นพื้นที่ใจกลางเมืองอีกแห่งหนึ่ง โครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่ในเขตนี้จัดอยู่ในหมวดเกรด C มีประมาณ 5,334 ยูนิต คิดเป็น 66.4% ของจำนวนอุปทานทั้งหมด คอนโดมิเนียมเกรด B ในเขตนี้มีประมาณ 2,096 ยูนิต ซึ่งคิดเป็น 26.1% ในขณะที่คอนโดมิเนียมเกรด A มีเพียง 608 ยูนิต หรือคิดเป็น 7.6% น่าแปลกใจที่พบว่าคอนโดมิเนียมเกรด C มีความต้องการสูงที่สุด ทั้งในแง่ของอัตราการขาย และจำนวนยูนิตที่ขายออก ซึ่งมีจำนวน 4,863 ยูนิตที่ขายออกไป ซึ่งอัตราการขายเท่ากับ 91.2% ความต้องการของคอนโดมิเนียมเกรด B มีจำนวน 1,715 ยูนิต ซึ่งอัตราการขายเท่ากับ 81.8% ในขณะที่ความต้องการของคอนโดมิเนียมเกรด A มีเพียง 406 ยูนิต และมีอัตราการขายอยู่ที่ 66.8%
“ราคาขายของคอนโดมิเนียมเปิดใหม่ในใจกลางเมืองโดยเฉลี่ยประมาณ 126,369 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ยที่สูงที่สุดที่เห็นในพหลโยธิน มีราคาประมาณ 149,000 บาทต่อตารางเมตร ตามมาด้วยรัชดา-พระราม 9-ลาดพร้าว ซึ่งมีราคาประมาณ 132,109 บาทต่อตารางเมตร และในเขตเพชรบุรี มีราคาอยู่ที่ 98,000 บาทต่อตารางเมตร ราคาขายเฉลี่ยต่ำสุดในตลาดคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองอยู่ในถนนพระราม 3 โดยมีราคาอยู่ที่ประมาณ 78,000 บาทต่อตารางเมตร”