เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 มิ.ย. 58 พนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ควบคุมตัว นายมนตรี โสตางกูร กรมวังผู้ใหญ่ ผู้ต้องหาแอบอ้างสถาบันหาผลประโยชน์ เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ และข้อหาอื่นๆ รวม 4 ข้อหา มาตรวจค้นทรัพย์สิน พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพิ่มเติม
ตามที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายค้น ที่บ้านเลขที่ 393/13 ถนนพระราม 3 ซอย 19 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของบิดา มารดา นายมนตรี ซึ่งตำรวจกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในบ้านเพื่อจัดเป็นห้องสอบปากคำ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พลตำรวจโท ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจค้น พบสมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม ของ นายมนตรี ที่มีเงินหมุนเวียนประมาณ 5 ล้านบาท เอกสารการครอบครองรถยนต์ 1 คัน รถตู้ 1 คัน และเอกสารใบจองคอนโด ย่านสุขุมวิท 1 ยูนิต จึงได้ยึดและอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบ
ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ ตำรวจจะควบคุมตัว นายมนตรี กลับไปสอบปากคำต่อ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และวันอังคาร จะควบคุมตัว นายมนตรี ไปส่งคืนให้กับศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำไปควบคุมตัวที่เรือนจำฯ
ขณะที่พนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมส่งสำนวนให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. พิจารณาตรวจสอบตามกระบวนการขั้นตอนก่อนยื่นฟ้องให้อัยการ
พลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ในการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ โดยจะส่งให้อัยการที่รับผิดชอบของแต่ละสำนวนไปพิจารณา ส่วนอัยการจะรวมสำนวนคดี เป็นคดีเดียวหรือไม่ ถือเป็นดุลพินิจของอัยการ ที่จะเป็นผู้พิจารณา
ด้าน พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร ฐานะผู้ช่วยโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้นบ้านพักนายมนตรี ย่านพระราม 3 ได้ตรวจยึดรถเก๋ง 1 คน รถตู้ 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม เอกสารการจองซื้อคอนโด ย่านสุขุมวิท โดยตรวจสอบพบว่านายมนตรี มีทรัพย์สินเงินสดและอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการสอบสวนจะนำตัวนายไปควบคุมไว้ที่ หน่วยฝึกทหารใหม่ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. และในวันพรุ่งนี้(15 มิ.ย.) จะนำกลับมาสอบสวนในเรื่องจำนวนเงินในบัญชีธนาคาร โดยจะนำสมุดบัญชีไปตรวจสอบสถานะเงินปัจจุบันว่าเหลือเท่าไหร่ โดยวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะนำตัวนายมนตรีกลับไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ต่อไป
ตามที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ อนุมัติหมายค้น ที่บ้านเลขที่ 393/13 ถนนพระราม 3 ซอย 19 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นบ้านของบิดา มารดา นายมนตรี ซึ่งตำรวจกันไม่ให้สื่อมวลชนเข้าไปในบ้านเพื่อจัดเป็นห้องสอบปากคำ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง พลตำรวจโท ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาเปิดเผยว่า จากการตรวจค้น พบสมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม ของ นายมนตรี ที่มีเงินหมุนเวียนประมาณ 5 ล้านบาท เอกสารการครอบครองรถยนต์ 1 คัน รถตู้ 1 คัน และเอกสารใบจองคอนโด ย่านสุขุมวิท 1 ยูนิต จึงได้ยึดและอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบ
ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ ตำรวจจะควบคุมตัว นายมนตรี กลับไปสอบปากคำต่อ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล และวันอังคาร จะควบคุมตัว นายมนตรี ไปส่งคืนให้กับศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อนำไปควบคุมตัวที่เรือนจำฯ
ขณะที่พนักงานสอบสวน จะรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมส่งสำนวนให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. พิจารณาตรวจสอบตามกระบวนการขั้นตอนก่อนยื่นฟ้องให้อัยการ
พลตำรวจโท ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า ในการสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 25 มิถุนายนนี้ โดยจะส่งให้อัยการที่รับผิดชอบของแต่ละสำนวนไปพิจารณา ส่วนอัยการจะรวมสำนวนคดี เป็นคดีเดียวหรือไม่ ถือเป็นดุลพินิจของอัยการ ที่จะเป็นผู้พิจารณา
ด้าน พ.ต.อ.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รอง ผบก.จร ฐานะผู้ช่วยโฆษก บช.น. เปิดเผยว่า ผลการตรวจค้นบ้านพักนายมนตรี ย่านพระราม 3 ได้ตรวจยึดรถเก๋ง 1 คน รถตู้ 1 คัน สมุดบัญชีธนาคาร 8 เล่ม เอกสารการจองซื้อคอนโด ย่านสุขุมวิท โดยตรวจสอบพบว่านายมนตรี มีทรัพย์สินเงินสดและอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการสอบสวนจะนำตัวนายไปควบคุมไว้ที่ หน่วยฝึกทหารใหม่ แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กทม. และในวันพรุ่งนี้(15 มิ.ย.) จะนำกลับมาสอบสวนในเรื่องจำนวนเงินในบัญชีธนาคาร โดยจะนำสมุดบัญชีไปตรวจสอบสถานะเงินปัจจุบันว่าเหลือเท่าไหร่ โดยวันที่ 16 มิ.ย. เวลา 10.00 น. จะนำตัวนายมนตรีกลับไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ต่อไป