ราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการย่อตัวลงอีกครั้ง และปรับตัวหลุดระดับ US$1,100 โดยปัจจัยกดดันสำคัญอยู่ที่ความกังวลต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ FED จากคำแถลงของประธาน FED และตัวเลขการจ้างงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ออกมาดีกว่าที่คาด รวมถึงการลดลงอย่างหนักของราคาน้ำมัน และการคาดการณ์ว่า ECB อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมซึ่งจะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรอีกครั้ง
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า
ยังคงมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญจากภูมิภาคต่างๆ ให้นักลงทุนต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ช่วงต้นสัปดาห์ ติดตามตัวเลข GDP ไตรมาส 3 ของไทย ซึ่งจะมีผลต่อค่าเงินบาท GDP ไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น ดัชนี CPI ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนโดย ZEW ของยุโรป และตัวเลขเศรฐกิจสหรัฐฯ อย่างดัชนีภาคการผลิตของ Empire State ดัชนี CPI อัตราการใช้กำลังการผลิต ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขออนุญาตสร้างบ้าน และยอดเริ่มต้นสร้างบ้าน ส่วนปลายสัปดาห์ ติดตามรายงานการประชุม FOMC เพื่อดูถึงสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ย และผลการประชุม BOJ เพื่อดูถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของญี่ปุ่น และตัวเลขเศรษฐกิจอย่างดัชนีภาคการผลิตเขตฟิลาเดลเฟีย ยอดขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยุโรป
ทางด้านปัจจัยทางเทคนิคราคา ทองคำมีการย่อตัวอย่างต่อเนื่อง โดยปรับตัวหลุด US$1,100 ทำให้มีโอกาสลงทดสอบแนวรับถัดไปที่ Expansion 50% MACD มีการปรับตัวลงต่ำกว่าระดับ 0 ย้ำสัญญาณเชิงลบ แต่ราคาทองคำยังมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่ RSI ยังอยู่ในเขต Oversold โดยมีแนวต้านสำคัญที่ US$1,110 ที่เส้นแนวโน้มขาลง และ US$1,130 ที่ EMA50 วัน
กมลธัญ พรไพศาลวิจิต
ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ และผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด