เอเอฟพี/มาร์เกตวอตช์ - ราคาน้ำมันลดลงวันจันทร์ (2 พ.ย.) หลังข้อมูลพบผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนยังคงหดตัว แนวโน้วทางเศรษฐกิจที่สวนทางกับสหรัฐฯ ที่พบยอดใช้จ่ายด้านการก่อสร้างแข็งแกร่ง จนดันวอลล์สตรีทพุ่งแรง ขณะที่ทองคำปิดลบต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ยังอยู่ใต้แรงกดดันของผลประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 45 เซ็นต์ ปิดที่ 46.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 77 เซ็นต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
แนวโน้มอุปสงค์ที่อ่อนแอในจีน ชาติผู้บริโภคพลังงานรายใหญ่ของโลก และกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นในรัสเซีย ซ้ำเติมความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดซึ่งผลักให้ราคาดำดิ่งลงมามากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในช่วงกลางปี 2014
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) อย่างเป็นทางการของภาคการผลิตจีน หดตัวลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนตุลาคม ส่วนกำลังผลิตน้ำมันของรัสเซียในเดือนเดียวกัน ก็ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ยุคหลังสหภาพโซเวียต แตะระดับ 10.78 ล้านบาร์เรลต่อวัน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันจันทร์ (2 พ.ย.) ปิดบวกแข็งแกร่ง บางส่วนมาจากปัจจัยทางเทคนิค แต่แรงหนุนสำคัญคือตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างสหรัฐฯ ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 165.22 จุด (0.94 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.828.76 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 24.69 จุด (1.19 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,104.05 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 73.40 จุด (1.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,127.15 จุด
ตัวเลขการใช้จ่ายก่อสร้างบ้านใหม่ ถนนหลวงและสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ ในเดือนกันยายน อยู่ที่ 1.09 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2008 กลับความผิดหวังต่อข้อมูลที่เซื่องซึมเกี่ยวกับดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการอุปทาน
ส่วนราคาทองคำวันจันทร์ (2 พ.ย.) ขยับลงปิดระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม หลังยังอยู่ภายใต้แรงกดดันจากผลประชุมเฟดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่แย้มว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 5.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,135.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์