คลอลิเออร์ ประเมินอสังหาฯ ปี 58 ติดลบ 20% ตลาดคอนโดฯ กระทบหนักสุด ปี 59 ยังลูกผีลูกคน ลุ้นมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลได้ผล หนุนเศรษฐกิจโตฉุดอสังหาฯ โตตาม
นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คอลลิเออร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ ว่า ไตรมาส 4 ของปีนี้คาดว่าตลาดจะยังคงชะลอตัวต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าทั้งปีภาพรวมตลาดจะติดลบ 20% แม้ว่าจะมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐออกมาช่วยกระตุ้นตลาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีก็ตาม เนื่องจากประชาชนยังขาดความเชื่อมั่นอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ คาดว่าจะเริ่มเห็นผลในช่วงต้นปี 2559
“มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ยังไม่เห็นผลในปีนี้ แต่คาดว่าจะเริ่มส่งผลในช่วงต้นปีหน้า โดยกลุ่มที่ได้รับอานิสงส์มากที่สุดคือ ผู้ประกอบการที่มีแบ็กล็อกสะสมอยู่ในมือจำนวนมาก ซึ่งมาตรการนี้จะช่วยให้ลูกค้ารับโอนบ้าน และทำให้โอนเร็วขึ้น แต่ไม่ได้ช่วยระบายซัปพลายใหม่เท่าใดนัก”
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะช่วยตลาดอสังหาฯ ได้อย่างแท้จริงคือ ภาวะเศรษฐกิจที่มีการเติบโต ประชาชน นักธุรกิจเกิดความเชื่อมั่น เพราะเมื่อเกิดความเชื่อมั่นก็จะกล้าซื้อบ้าน ซึ่งนโยบายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีที่สุดในขณะนี้คือ การลงทุนภาครัฐในระบบโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างในปีหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างจำนวนมาก อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ
“ภาวะเศรษฐกิจในปี 2559 คงไม่ดีไปกว่าปีนี้ ตราบใดที่เศรษฐกิจของไทยยังพึ่งพิงการส่งออก แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศลดการพึ่งพิงการสงออก แต่ต้องอาศัยระยะเวลายาวนาน ซึ่งมาตรการระยะสั้นที่คาดว่าจะเห็นผลในขณะนี้คือ โครงการก่อสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐาน”
สำหรับตลาดอสังหาฯ ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คอนโดมิเนียมราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท หรือตารางเมตรละไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการพัฒนาออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ตลาดดูดซับไปมากแล้ว ส่วนคอนโดฯ ราคาเกินกว่า 1.7 แสนบาท/ตร.ม.ขึ้นไป และคอนโดฯ ไฮเอนด์ ส่วนยอดขายลดลงเช่นกัน พิจารณาได้จากมีโครงการที่สามารถปิดการขายได้ภายในเวลาอันรวดเร็วเพียงไม่กี่โครงการเมื่อเทียบกับในอดีต หลายโครงการไม่ประสบความสำเร็จต้องคืนเงินลูกค้า ชะลอโครงการออกไป บางโครงการหยุดขายเพื่อรอขายใหม่เมื่อโครงการสร้างเสร็จ
ขณะที่คอนโดมิเนียมในต่างจังหวัดชะลอตัวมากเช่นกัน ส่วนที่ยังสามารถไปได้ คือ จังหวัดเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ แม้ว่าบางทำเลจะมีสินค้าคงเหลือจำนวนมากก็ตาม ส่วนตลาดบ้านแนวราบชะลอตัวน้อยกว่าคอนโดมิเนียม อย่างไรก็ตาม อสังหาฯ ได้แรงซื้อจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้มากพอสมควร โดยเฉพาะชาวยุโรป และจีน
ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปีจะมีคอนโดฯ เปิดใหม่ในเขตกรุงเทพฯ ไม่เกิน 40,000 ยูนิต ลดลงจากปีที่ผ่านมาที่มีจำนวนยูนิตเปิดใหม่ 50,000 ยูนิต โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 มีคอนโดฯ เปิดใหม่ 28,700 ยูนิต