คอมเซเว่นฯ เผยยอดขาย iPhone 6s-iPhone 6s Plus พุ่งกระฉูด หลังเปิดขายวันแรก 30 ตุลาคมที่ผ่านมา สามารถขายทำลายสถิต iPhone6 ประธานบอร์ดเผยช่วยหนุนรายได้ และกำไรในครึ่งปีหลังเพิ่ม คาดกระตุ้นยอดขายปี 2558 คาดโต 10% จากปีก่อน ส่วนกำไรโตในอัตราที่มากกว่า อยู่ระหว่างการศึกษาเตรียมการเข้าไปลงทุนในกลุ่มประเทศ AEC
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น หรือ COM7 กล่าวว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้เปิดขาย iPhone 6s และ iPhone 6s Plus รุ่นหน้าจอใหญ่อีกรุ่นหนึ่งอย่างเป็นทางการเมื่อวันทื่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีกระแสตอบรับดี เพียงวันแรกวันเดียวสามารถทำยอดขายมากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ที่มีการเปิดขาย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus วันแรก โดย COM7 ได้รับประโยชน์สูงสุดจากช่องทางในการจัดจำหน่ายที่มีกว่า 300 สาขา ผ่าน iStudio, iBeat by Comseven และ BaNANA IT ซึ่งมีสาขาครอบคลุมพื้นที่มากที่สุดในประเทศ
“สำหรับสินค้าใหม่ของ Apple ที่เปิดตัวในครั้งนี้ ได้รับการตอบรับจากลูกค้าในประเทศไทยเป็นอย่างมากดังเช่นทุกครั้งที่ Apple เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา และยังคงมีความต้องการสูงต่อเนื่องไปยังปีหน้า แค่เปิดตัววันแรกของ iPhone 6s สร้างยอดขายทำลายสถิติการเปิดขายวันแรกของ iPhone 6 และช่วงปลายปีนี้ รอยต่อปี 2559 ได้แรงสนับสนุนจากการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีไปยุค 4G ด้วย แต่ COM7 มีภารกิจที่สำคัญ คือ การเพิ่มอัตรากำไรสุทธิ และรักษาแชมป์ยอดขายอันดับ 1 ด้านยอดขายของตัวแทนการจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ในประเทศไทย และในแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้อย่างต่อเนื่อง โดย iPhone 6S ที่เปิดตัวในครั้งนี้มีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ส่วน iPhone 6S Plus มีขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้ว ทั้ง 2 รุ่น ดีไซน์จะยังคงคล้ายกับรุ่นก่อน แต่ได้มีการอัปเกรดในหลายๆ ด้าน และเพิ่มสีชมพู Rose Gold เข้ามาเอาใจสาวก Apple ส่วน iPad Pro หน้าจอ 12.9 นิ้ว หน้าจอใหญ่ที่สุดสำหรับอุปกรณ์ IOS CPU แรง และหน่วยความจำเยอะกว่าเดิม เพิ่มลำโพงเป็น 4 ตัว อยู่บริเวณมุมทั้ง 4 ด้าน มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริม Smart Keyboard และ Apple Pencil สำหรับใช้งานคู่กับ iPad Pro นอกจากนี้ Apple TV ถูกยกเครื่องใหม่ให้ทันสมัยกว่าเดิม โดยเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการ TVOS กล้องรับสัญญาณใช้ชิปประมวลผล A8 รองรับ Bluetooth 4.0 เช่นเดียวกับรีโมตใหม่เพิ่มขีดจำกัดในการใช้งาน และสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง Apple TV เป็นสินค้าที่ขายผ่านตัวแทนจำหน่ายของ Apple เท่านั้น ส่งผลดีต่อบริษัทฯ ในฐานะเบอร์ 1 ในประเทศไทยที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ให้รับรู้รายได้เต็มที่”
ทั้งนี้ Com7 เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่สุดของ Apple ในประเทศไทยในแง่ของยอดขาย และปริมาณสาขา อีกทั้งยังเป็นผู้ประกอบการที่ความสามารถในการรักษาอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีมาก และไม่เพียงแค่ร้าน iStudio iBeat by com7 เท่านั้นที่จำหน่ายสินค้าของ Apple เพราะยังมีร้าน BaNANA IT จำนวนทั้งหมดกว่า 110 สาขา ที่จำหน่ายสินค้า Apple ในต่างจังหวัดด้วยเช่นกัน จึงเชื่อว่าจากความแข็งแกร่งเรื่องช่องทางการขาย และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากที่สุดรายหนึ่งในประเทศ จะสนับสนุนยอดขายในช่วงปลายปีนี้ให้คึกคัก รับกระแสสินค้าใหม่ของ Apple ที่ออกมาได้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเข้าไปรุกตลาด SME ทั้งธุรกิจขนาดกลางและเล็ก รวมทั้งหน่วยงานราชการ และภาคเอกชน ภายใต้แบรนด์ BaNANA Business เพื่อจำหน่ายสินค้าในทุกแบรนด์ที่มี รวมทั้งสินค้า Apple ทั้ง iMac, Macbook, Ipad pro และอื่นๆ เพื่อเข้าครองส่วนแบ่งในตลาดนี้อย่างจริงจัง ตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 ในผู้ประกอบการค้าปลีกรายใหญ่ของประเทศไทย พร้อมกันนี้ บริษัทฯ ยังมีการศึกษาการลงทุนเพิ่มในภูมิภาคอาเซียน (AEC) ซึ่งเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน คอมเซเว่นฯ จำหน่ายสินค้าไอทีภายใต้แบรนด์ BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore By Comseven มีสาขาครอบคลุม 50 จังหวัด จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีสาขารวมกันอยู่ทั้งสิ้นกว่า 300 สาขา และยังครองส่วนแบ่งในต่างจังหวัดสูงสุดราว 90% ของยอดขายสินค้า Apple ในต่างจังหวัดทั้งหมด โดยในปีนี้ บริษัทฯ สามารถขยายสาขาภายใต้แบรนด์ BaNANA IT, BaNANA Mobile, iStudio, iBeat, uStore by Comseven จำนวน 40 สาขา และปรับปรุงสาขาเพื่อสร้างรูปโฉมใหม่อีก 10 สาขาได้ตามแผนที่วางไว้