“ดีแทค” กับ “แอปเปิล” เมื่อภาพลักษณ์แบรนด์สวนทางกัน

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ขึ้นมาทันทีหลังจากมีการเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาเครื่องเก่าแลก iPhone 6 ภายใต้แคมเปญ “มือถืออะไรก็ได้มาแลกเป็น iPhone 6” ของทางเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถืออย่างดีแทค ที่เริ่มออกอากาศตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา และงดเผยแพร่ภาพยนตร์ดังกล่าวแล้ว

โดยทางดีแทคได้มีการส่งจดหมายชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการที่ดีแทคกระตุ้นการขายสมาร์ทโฟน และสร้างโอกาสให้ลูกค้าสามารถซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ได้ในราคาที่ดีมากขึ้น ผ่านแคมเปญ “มือถืออะไรก็ได้มาแลกเป็น iPhone 6” โดยได้ออกอากาศภาพยนตร์โฆษณาไปเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีการแสดงความคิดเห็นต่อภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวเป็นที่หลากหลายในวงกว้าง ดีแทคขอขอบคุณทุกเสียงที่แนะนำ คำติติง ความไม่สบายใจ และความห่วงใยที่เข้ามา โดยดีแทคพร้อมน้อมรับความคิดเห็นจากทุกท่าน และขออภัยที่ภาพยนตร์ดังกล่าวอาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจมา ณ โอกาสนี้

และด้วยการให้ความสำคัญต่อความรู้สึกของลูกค้าทุกท่าน ทางดีแทคจึงพิจารณางดเผยแพร่ภาพยนตร์โฆษณาดังกล่าวเพื่อเป็นการแสดงความจริงใจต่อคำแนะนำ และคำติชมที่มีให้ ดีแทคยังคงมุ่งมั่นที่จะทำงานด้วยความจริงใจ และตั้งใจดี ด้วยความห่วงใย และความใส่ใจในทุกๆ อย่างต่อลูกค้าของเรา เนื้อความโดยย่อของโฆษณา คือ การที่นำคนที่ใช้ iPhone ที่การนำเสนอฟีเจอร์อย่าง Siri การถ่ายภาพสโลว์โมชัน ทำให้เพื่อนอีกคนที่ไม่ได้ใช้ iPhone อายจนต้องเก็บโทรศัพท์ลงไป

โดยรวมแล้วเหมือนเป็นการนำเสนอว่า ถ้าไม่ได้ใช้ iPhone จะทำให้อายคนอื่นที่ใช้งาน นี่ถือเป็นการแก้ไขในเบื้องต้นของดีแทค ที่เมื่อมีเสียงตอบรับที่ไม่ดีต่อผู้บริโภคออกมาก็พร้อมที่จะยอมรับ และแก้ไขให้ถูกต้อง เพียงแต่ถ้ามองในอีกมุมหนึ่ง โฆษณาดังกล่าวก็ถือว่าเป็นการสื่อสารถึงภาพลักษณ์ของแอปเปิลในตลาดสมาร์ทโฟนปัจจุบันได้อย่างไม่ผิดเพี้ยนก็ว่าได้ เพราะที่ผ่านมา แอปเปิลพยายามวางแบรนด์สินค้าให้อยู่ในกลุ่มระดับพรีเมียมที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงได้ ภายในโฆษณาก็มีการนำฟีเจอร์ที่เป็นจุดเด่นมานำเสนอกันอย่างตรงๆ รวมถึงแคมเปญโฆษณาล่าสุดที่แอปเปิลออกมา‘ถ้าไม่ใช่ iPhone ยังไงก็ไม่ใช่ iPhone’ที่ออกมายืนยันถึงการแข่งขันในตลาดจากผู้ผลิตสมาร์ทโฟนรายอื่น ที่พยายามเข้ามาเทียบเท่า แต่ท้ายที่สุดแล้วยังไงก็ไม่ใช่ iPhone

ในขณะที่ภาพลักษณ์ของดีแทค ที่ผ่านมาจะเน้นไปที่การสื่อถึงความรัก การที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกดีมาโดยตลอด ทำให้เมื่อคนกลุ่มนั้นถูกเปรียบเทียบด้วยโฆษณาที่สื่อออกมา จึงทำให้เกิดแรงต้านขึ้นมาในทันที

Company Related Link :
ดีแทค