“เซ็ปเป้” ประเมินภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/58 ฉุดผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังหดตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ชี้จากปัจจัยตลาดในประเทศจีนอยู่ระหว่างการปรับตัวหลังเปลี่ยนแปลงตัวแทนจำหน่าย และเริ่มย่างเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ส่งผลกระทบต่อการบริโภคเครื่องดื่ม ขณะที่ตลาดอินโดนีเซีย ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลต่อการบริโภคของธุรกิจค้าปลีก ด้านผู้บริหารเดินหน้ารุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และปรับแผนกลยุทธ์ให้สอดคล้องต่อภาวะปัจจุบัน มั่นใจแบรนด์สินค้าแข็งแกร่งหนุนไตรมาส 4/58 กลับมาฟื้นตัวได้ดีทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ ยันคงเป้าหมายรายได้ 5,000 ล้านบาทในปี 2560
น.ส.ปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE ผู้สร้างสรรค์เครื่องดื่มระดับโลก เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากประเมินว่าภาพรวมของผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/58 (กรกฎาคม-กันยายน) จะมีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงจากปัจจัยตลาดส่งออกไปยังประเทศจีน หลังจากที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรายใหม่เข้ามาทดแทนรายเดิม และมีการสั่งสินค้าเป็นจำนวนมากเพื่อสต๊อกสินค้าไว้รอการขาย และกระจายสินค้าเข้าสู่ช่องทางจำหน่ายตั้งแต่ในไตรมาส 2/58 ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยระยะเวลาเพื่อระบายสินค้าจากช่องทางขาย ประกอบกับประเทศจีนย่างเข้าสู่ช่วงหน้าหนาว ทำให้พฤติกรรมการบริโภคเครื่องดื่มในประเทศจีนชะลอตัวลง
ขณะที่ประเทศอินโดนีเซีย เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ได้รับผลกระทบจากตลาดเครื่องดื่มที่ชะลอตัวลงจากภาวะเศรษฐกิจ และการอ่อนค่าของค่าเงินของประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งส่งผลกระทบให้ผลการดำเนินงานในอินโดไม่เติบโตไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยคาดว่าจะชะลอตัวลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม จากการปรับแผนกลยุทธ์ในประเทศอินโดฯ ให้สอดคล้องต่อภาวะเศรษฐกิจ เชื่อว่าธุรกิจจะกลับมาเติบโตอย่างแข็งแกร่งในปี 2016
“ภาพรวมการทำตลาดเครื่องดื่มของ SAPPE ที่มีการส่งออกไปทั่วโลกในปีนี้ยอมรับว่ามีความท้าทายในระดับสูงจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในเกือบทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม ยอดขายของบริษัทฯ มีการเติบโตได้ดีตามเป้าหมายที่วางไว้ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก ยกเว้นการเติบโตในประเทศจีน และอินโดนีเซีย ที่การเติบโตไม่เป็นไปตามคาด ซึ่งเป็น 2 ประเทศที่มีสัดส่วนค่อนข้างสูง ส่งผลให้ภาพรวมการเติบโตในปีนี้ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ปรับแผนกลยุทธ์ทางด้านการขาย และการตลาดให้สอดคล้องต่อความท้าทายในปัจจุบัน ซึ่งเราพร้อมร่วมมือกับตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศเพื่อทำกิจกรรมการตลาดสร้างแบรนด์สินค้า และผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน”
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/58 จะกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นทั้งแง่ของรายได้ และกำไร จากยอดส่งออกสินค้าเพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดในประเทศที่คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่โดดเด่นขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากบริษัทฯ ได้ปรับภาพลักษณ์ตราสินค้าให้ดูทันสมัยมากขึ้น ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคสอดคล้องต่อกระแสดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ด้วยพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแกร่งทั้งด้านฐานการผลิต โดยได้เปิดสายการผลิตใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น และแบรนด์สินค้าที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับ การพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ตลอดจนแนวโน้มการอ่อนค่าของค่าเงินบาทที่ช่วยสนับสนุนการส่งออก จึงมั่นใจว่า ด้วยแผนยุทธศาสตร์การขยายตลาดใหม่ๆ ทั้งในภูมิภาคเอเชีย และในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก จึงยังคงเป้าหมายยอดขาย 5,000 ล้านบาท ในปี 2560 และผลักดันแบรนด์ SAPPE ให้ก้าวสู่การเป็น Global Brand ที่ผู้บริโภคทั่วโลกให้การยอมรับตามเป้าหมายที่วางไว้”