ควอลิตี้เฮ้าส์ฯ วอนรัฐชัดเจนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ หวั่นลูกค้าชะลอตัดสินใจหวังมาตรการเพิ่มเติม เชื่อมาตรการกระตุ้นอสังหาฯดันยอดโอน-ขายทั้งปีเข้าเป้า แจง10เดือนยอดขาย15,000ล้านบาท จากเป้า23,000ล้านบาท ด้านยอดรับรู้รายได้6เดือย7,800ล้านบาทจากเป้าทั้งปี 21,000-22,000ล้านบาท มั่นใจรายได้คิว3ดันรายได้รวมขยับเข้าใกล้เป้า แจงแบคล๊อกในมือ12,000 ล้านรับรู้ปี58กว่า3,000 ล้านบาท ปี59รับรู้ 4,000 ล้านบาทส่วนที่เหลือทยอยโอนปีถัดไป
นางสุวรรณา พุทธประสาท รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ HQ กล่าวว่า 10เดือนแรกของปีบริษัทมียอดขายแล้ว15,000 ล้านบาท จากเป้ายอดขายรวมทั้งปี 23,000 ล้านบาท ทำให้ยังต้องเร่งทำยอดขายเพิ่มอีก8,000 ล้านบาทในครึ่งปีหลัง ส่วนรายได้รับรู้ช่วง6เดือนแรกอยู่ที่ 7,800 ล้านบาท จากเป้ารายได้รับรู้รวมที่วางไว้ทั้งปี 21,000-22,000ล้านบาท ขณะที่รายได้ในช่วงไตรมาส3นี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์ก่อน อย่างไรก็ตามเมื่อนับรวมกับรายได้ของไตรมาส3ของปีนี้แล้ว จะทำให้เหลือยอดรับรู้รายได้อีกไม่มากนักก็จะเข้าเป้าที่วางไว้
ทั้งนี้ หลังจากที่รัฐมีการออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ออกมา ความเชื่อมั่นและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคเริ่มปรับตัวดีขึ้น ซึ่งส่งผลต่อตลาดในช่วงปลายปีให้มีทิศทางที่ดีขึ้นด้วย ดังนั้น คาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ยอดขายของบริษัทจะขยายตัวได้ดีและสามารถทำยอดขายเข้าเป้าได้ โดยเฉพาะยอดขายที่จะมาจากโครงการ “คิว สุขุมวิท” ซึ่งมีมูลค่าโครงการรวม 9,400ล้านบาท โดยขณะนี้มียอดขายแล้ว 20% หรือ1,600 ล้านบาท คาดว่าใน2เดือนที่เหลือจะมียอดขายเข้ามาอีก20% ซึ่งจะทำให้ในปีนี้บริษัทจะมียอดขายจากโครงการนี้เข้ามา3,200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีกลุ่มสินค้าแนวราบ ซึ่งถือว่ามีการขยายตัวที่ดีเข้ามาเพิ่มคาดว่าจะทำให้ยอดขายทั้งปีเข้าเป้าได้ไม่ยาก
ส่วนรายได้รับรู้ของปีนี้ ยังคงต้องเร่งโอนกลุ่มสินค้าแนวราบ โดยเฉพาะสินค้าพร้อมอยู่เพิ่มขึ้น เพื่อให้เข้าเป้าที่วางไว้ โดยในปีนี้บริษัทมีแบคล็อครอรับรู้รายได้ในมือ 12,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ในปีนี้ 3,000 ล้านบาท และรับรู้ในปี59 อีก 4,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปีถัดไป
“ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ยอดขายและรายได้รับรู้ของปีนี้เป้นไปตามคาดการ คือ มาตรการกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐซึ่งต้องรอความชัดเจนทั้งหมด เพราะผู้บริโภคยังชะลอตัดสินใจอยู่เพราะคิดว่าจะมีมาตรการเสริมเข้ามาเพิ่ม ดังนั้นหากรัฐบาลประกาศความชัดเจนทั้งหมดในมาตรการออกมาเชื่อว่าการตัดสินใตจซื้อและโอนจะเร็วขึ้นไปด้วย เนื่องจากในปีนี้เป็นปีที่จะมีการโอนกรรมสิทธิ์โครงการอาคารชุดจำนวนมาก โดยในส่วนของมีสต๊อกรอโอนคอนดดในมือกว่า3,000 ล้านบาท”
นางสุวรรณา กล่าวถึงว่าโครงการคิว สุขุมวิท ว่า สำหรับโครงการนี้คาดว่าสิ้นปีจะปิดการขายได้ที่40% ของมูลค่ารวม แต่จะไม่เร่งปิดการขายทั้งหมด เพราะต้องการสร้างมูลค่าเพิ่มให้โครงการ เนื่องจากโครงการระดับเดียวกันในถนนสุขุมวิทหาไม่ได้แล้ว โดยโครงการนี้มีกำหนดก่อสร้างเสร็จใน3ปี ดังนั้นในการขายห้องชุดในโครงการจึงจะทยอยขายห้องชุดไปตามอัตราความคือหน้าการก่อสร้าง โดยหวังว่าในช่วงที่งานก่อสร้างคืบหน้า80-85% จะสามารถปิดการขายโครงการได้ทั้งหมด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้นราคาขายห้องชุดในโครงการจะไต่ระดับขึ้นไปสูงกว่าในปัจจุบัน ซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยต่อตารางเมตรอยู่ที่ 300,000บาท และทำให้มูลค่าขายรวมของโครงการนี้ขยับขึ้นไปไม่ต่ำกว่า10,000 ล้านบาทจาก9,400 ล้านบาทในปัจจุบัน
สำหรับแผนการพัฒนาโครงการใหม่ในปี59 บริษัทจะมีการเปิดตัวโครงการรวม 27โครงการมูลค่ารวมประมาณ 30,000ล้านบาท แบ่งเป้นโครงการแนวราบ 20โครงการ และโครงการแนวสูง7โครงการ โดยจะแบ่งสัดส่วนการพัฒนาในกลุ่มสินค้าระดับบนราคา10-15 ล้านบาทขึ้นไป35% สินค้าระดับกลาง5-10ล้านบาท25% และกลุ่มสินค้าEconomy ราคาเฉลี่ย2ล้านบาท40%