ดัชนีตลาดหุ้นไทยภาคเช้าปิดการซื้อขายที่ 1,417.18 จุด ลดลง 1.20 จุด หรือ (0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 14,980.57 ล้านบาท
ฝ่ายวิจัยของ บล.กสิกรไทย ประเมินการเคลื่อนไหวของ SET Index สัปดาห์นี้ ยังมีโอกาสที่จะปรับเพิ่มขึ้นต่อ แต่คาดว่าจะเป็นการขึ้นที่มีกรอบค่อนข้างจำกัด (ยังไม่น่าเกิน 1,450 จุด) โดยปัจจัยหนุนหลักจะมาจาก Fund Flow ที่ไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง ทั้งในตราสารทุน (ซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.58 - ปัจจุบัน ด้วยยอดสะสม 7 พันล้านบาท) ตราสารอนุพันธ์ (Long สุทธิใน SET50 Futures 12 จากใน 14 วันทำการล่าสุดด้วยยอดสะสม 8.9 หมื่นสัญญา) และในตราสารหนี้ (ซื้อสุทธิตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.58-ปัจจุบัน สะสมกว่า 6.58 หมื่นล้านบาท ในจำนวนดังกล่าวเป็นพันธบัตรอายุต่ำกว่า 1 ปีกว่า 5 หมื่นล้านบาท) ซึ่งกระแสเงินทุนไหลเข้าดังกล่าวสอดรับต่อการแข็งค่าของเงินบาท โดยเงินบาทแข็งค่ามาตั้งแต่ 1 ต.ค.58-ปัจจุบันกว่า 3% ล่าสุด ลงมาอยู่ในระดับเกือบจะต่ำที่สุดในรอบ 2 เดือนที่ 35.25 บาทต่อดอลลาร์
วันนี้ดัชนียังไม่น่าจะลงต่ำกว่า 1,412 จุด และอาจพลิกกลับไปทดสอบ 1,427 จุด ฝ่ายวิจัยจึงยังเลือก CK AOT และ ERW เป็น Top Picks และให้เก็งกำไรผลประกอบการเด่น GLOBAL KCE SAWAD BA
อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มขึ้นของตลาดในสัปดาห์นี้น่าจะเป็นไปในลักษณะขึ้นในกรอบจำกัด และเริ่มผันผวนมากกว่าเดิม โดยระหว่างทางมีเรื่องให้ต้องติดตามทั้งภายใน และภายนอกประเทศ โดยในส่วนของภายนอกประเทศ วันที่ 19 ต.ค.2558 การรายงาน GDP ใน 3Q58 ของจีน ตลาดคาดไว้ที่ 6.8% yoy หดตัวจาก 2Q58 ที่ 7.0% yoy หากออกมาต่ำกว่าคาดอาจเป็นแรงกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก (แต่ตลาดอาจฟื้นเร็วจากความคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และ PBOC) และวันที่ 22 ต.ค.2558 การประชุม ECB คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ 0.05% ต่อไป และอาจมีการพูดถึงโอกาสในการขยายขนาด QE หลังเงินเฟ้อยุโรปอยู่ต่ำใกล้ 0%
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
SCI มูลค่าการซื้อขาย 824,591 ล้านบาท ปิดที่ 8.20 บาท ลดลง 0.10
TIPCO มูลค่าการซื้อขาย 822,165 ล้านบาท ปิดที่ 22.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.00
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 590,665 ล้านบาท ปิดที่ 229.00 บาท ลดลง 1.00
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 573,132 ล้านบาท ปิดที่ 187.50 บาท ลดลง 0.50
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 555,298 ล้านบาท ปิดที่ 10.40 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง