หุ้นปิดลบตามภูมิภาคคาดขาดปัดจัยหนุน

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้ (14 ต.ค.) ปิดทำการที่ 1,405.08 จุด ลดลง 1.61 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 36,374.90 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค เหตุกังวลเศรษฐกิจโลกหลังตัวเลขจีนออกมาแย่ และตลาดซึมไร้ปัจจัยกระตุ้นใหม่ ส่วนมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ มี Sell on Fact ไปแล้ว แนะติดตามคืนนี้ รายงานเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) ชี้นำแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ย และทิศทางตลาดพรุ่งนี้ (15 ต.ค.) รวมทั้งจับตามาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจีน ให้จุดฟิวเตอร์-แนวรับ 1,390 ถ้าหลุดแนวนี้ไปตั้งหลักที่ 1,370-1,350 แนวต้าน 1,410-1,420 จุด

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,405.08 จุด ลดลง 1.61 จุด (-0.11%) มูลค่าการซื้อขาย 36,374.90 ล้านบาท โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,414.85 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,404.47 จุด

น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่แกว่งตัวในแดนลบ เนื่องจากเริ่มกลับมากังวลเศรษฐกิจโลกอีกครั้งหลังจากตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของจีนซบเซา และตลาดฯ ไร้ปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น ทำให้ซึมตัวลง

สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์วานนี้ (13 ต.ค.) หุ้นในกลุ่มอสังหาฯ รับรู้ไปก่อนหน้าแล้ว เมื่อประกาศจริงจึงได้จะเห็น Sell on Fact ทั้งนี้ จากมาตรการฯจะเห็นได้ว่า ผลดีเกิดในระยะสั้นช่วง 6 เดือน แต่หลังจากนั้นยอดขายอาจจะแผ่วลง เมื่อสิ้นสุดโครงการฯ อย่างไรก็ดี คืนนี้ต้องรอดูรายงานภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (Beige Book) ว่าจะมีการมุมมองอย่างไร เพราะจะเป็นตัวชี้นำการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ด้วย

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ Beige Book ของสหรัฐฯ และต้องจับตาว่าจีนจะมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ซบเซาหรือไม่ อย่างไร พร้อมให้จุดฟิวเตอร์ และแนวรับที่ 1,390 จุด ถ้าหลุดแนวนี้ก็จะต้องไปตั้งหลักที่ 1,370-1,350 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,410-1,420 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,797.22 ล้านบาท ปิดที่ 5.45 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,557.76 ล้านบาท ปิดที่ 262.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
TIPCO มูลค่าการซื้อขาย 1,206.59 ล้านบาท ปิดที่ 21.20 บาท ลดลง 0.30 บาท
ORI มูลค่าการซื้อขาย 1,161.05 ล้านบาท ปิดที่ 11.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,138.65 ล้านบาท ปิดที่ 17.70 บาท ลดลง 0.10 บาท