xs
xsm
sm
md
lg

ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง เผยโรงไฟฟ้าชีวมวล “แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่” จ่ายไฟแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หัวเรือใหญ่ ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง “เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล” เผยโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ กำลังการผลิตเสนอขายตามสัญญา 8 MW จ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อย และสามารถรับรู้รายได้ทันที ช่วยหนุนผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ให้ออกมาดี

นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้าชีวมวล แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) กำลังการผลิตเสนอขายไฟฟ้าตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ ที่จังหวัดนครสวรรค์ จำหน่ายไฟฟ้าได้แล้ว และทำให้บริษัทสามารถรับรู้รายได้ทันที ซึ่งจะเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ออกมาในทิศทางที่ดี เนื่องจากโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะขายไฟฟ้าในรูปแบบใหม่คือระบบ Feed in Tariff (FiT) แทนที่ระบบ Adder

สำหรับบริษัท แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2550 เพื่อประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากชีวมวล ซึ่งมีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ที่ตำบลวังซ่าน อำเภอแม่วงก์ จังหวัดนครสวรรค์ โดย MWE ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าสำหรับผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมากกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แบบ Feed-in-Tariff (FiT) เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2558 สัญญาซื้อขายไฟฟ้าดังกล่าวมีระยะเวลา 20 ปี

นายเชิดศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า บริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลที่สามารถจำหน่ายกระแสไฟฟ้าได้รวม 20 เมกะวัตต์ แล้ว 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) และโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) นอกจากนี้ ยังมีอีก 4 โครงการรวมกำลังการผลิต จำนวน 40 เมกะวัตต์ ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP),โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG), โรงไฟฟ้าชีวมวลพัทลุง กรีน เพาเวอร์ (PGP) และโรงไฟฟ้าชีวมวลสตูล กรีน เพาเวอร์ (SGP) และมีโครงการที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการขอใบอนุญาตมีกำลังการผลิต 46 เมกะวัตต์ คือ โรงไฟฟ้าชีวมวล ปัตตานี กรีน (PTG) รวมในปีนี้
บริษัทฯ มีแผนในการก่อสร้างและผลิตโรงไฟฟ้าชีวมวล ทั้งหมด 106 เมกะวัตต์ ได้รับใบอนุญาตแล้วในขณะนี้ จำนวนกำลังการผลิต 83 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นระบบ Feed in Tariff (FiT) 50 เมกะวัตต์ คือ MWE, MGP, TSG, PGP และ SGP และระบบ Adder 33 เมกะวัตต์ คือ CRB และ PTG (เฟส 1) ซึ่งค่าไฟในระบบFeed in Tariff (FiT) จะมีอัตรากำไรสุทธิ 45-50% เมื่อเปรียบเทียบกับระบบ Adder ที่มีอัตรากำไรสุทธิ 25-30%

โดยโรงไฟฟ้าแม่วงศ์ ถือเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลโครงการแรกของ TPCH ที่ได้ขายไฟฟ้าในระบบ Feed in Tariff (FiT) ซึ่งจะทำให้เป้าหมายการผลิตของบริษัทเติบโตขึ้น 3 เท่าภายใน 3 ปีจากนี้ บริษัทฯ จึงมีความเชื่อมั่นว่าแผนธุรกิจดังกล่าวจะสำเร็จลุล่วงเป็นอย่างดีเนื่อง

จากบริษัทฯ มีใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องครบถ้วน อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ได้ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 ตามแผนที่วางไว้ โดยจะเน้นในพื้นที่ภาคใต้เป็นหลัก เนื่องจากมีประสบการณ์ และความชำนาญในการทำงานในพื้นที่ดังกล่าวมาอย่างยาวนาน ประกอบกับมีการวางกลยุทธ์บริหารจัดการเรื่องวัตถุดิบในการผลิตไฟฟ้าชีวมวลที่เพียงพอสำหรับการดำเนินงานในระยะยาวอีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น