“บล.โกลเบล็ก” ชี้แนวโน้ม SET มีลุ้นไปต่อได้ มองกรอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด เผยปัจจัยในประเทศทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นในช่วงโค้งสุดท้าย ด้วยความหวังว่าจะดันให้ตัวเลขจีดีพีของไทยไปไกลถึง 3% ส่วนปัจจัยลบ ไอเอ็มเอฟได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของ ศก.โลกในปีนี้สู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2009
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 50 USD/Barrel ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานซึ่งเป็นหุ้นที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ ทำให้ราคาหุ้นพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะหนุนต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET) รวมถึงแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งยังเหลือการประชุมเฟดอีก 2 ครั้ง ในวันที่ 27-28 ต.ค. และวันที่ 15-16 ธ.ค. ประกอบการที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยความหวังว่าจะดันให้ตัวเลขจีดีพีของไทยไปไกลถึง 3% ได้
โดยมีปัจจัยถ่วงในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ระบุว่า ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2009 โดยลดลง 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อน และต่ำกว่าการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 3.4%
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET โดยระบุว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ประกอบกับการที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาเป็นฝั่ง Net Buy ตลาดหุ้น และ TFEX ดังนั้น ประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด ก่อนจะย่อพักตัวเพื่อรอการ Preview งบ Q3/58 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT PTTEP PTTGC TOP เนื่องจากได้รับอานิสงส์ในเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรง และกลุ่มที่เกี่ยวต่อการส่งออก ได้แก่ กลุ่มอาหาร และและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง รวมทั้งกลุ่มอสังหาฯ แนะนำ SIRI PS SPALI QH LPN จากที่คาดจะว่าจะได้ข้อสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในไม่นานนี้
สำหรับแนวทางการลงทุนในทองคำ นายสุทธิพงษ์ ศรีพรประเสริฐ นักวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาได้อีกครั้งหลังปรับลงต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยได้แรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานยังคงอ่อนแอจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย.ที่เพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่ง ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นราว 200,000 ตำแหน่ง
ประกอบกับตัวเลขดัชนีภาคบริการของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย.ได้ปรับตัวลดลงจากเดือนก่อนหน้าและต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้น แสดงถึงความอ่อนแอของข้อมูลภาคบริการทำให้โอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลดซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ
ดังนั้น ประเมินราคาทองโลกด้านเทคนิคจากการที่ราคาปรับขึ้นสร้างแท่งเทียน BULLISH ผ่านยืนแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันขึ้นมาได้พร้อมกัน ทำให้มีโอกาสสร้างฐานแนวรับรูปแบบ DOUBLE BOTTOM ขณะที่ราคามีการพักตัวระยะสั้น แต่เป็นการพักตัวออกข้างไม่หลุดแนวรับเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วัน ทำให้เป็นการยืนยันแนวโน้มการฟื้นตัวขึ้นต่อตามรูปแบบ ประกอบกับค่าสัญญาณทางเทคนิคที่เป็นบวก ทำให้ราคามีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นต่อ โดยให้แนวรับ 1,125-1,120 เหรียญต่อทรอยออนซ์และแนวต้าน 1,170-1,175 เหรียญต่อทรอยออนซ์