ตลาดหลักทรัพย์ช่วงเช้าวันนี้ (8-10-58) ที่ระดับ 1,393.53 จุด ลดลง 0.13 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขายรวม 25,872.12 ล้านบาท โดยในเช้าวันนี้ดัชนีวิ่งทั้งแดนบวกและแดนลบ
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 50 USD/Barrel ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ และราคาหุ้นพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะหนุนต่อดัชนี SET รวมถึงแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ซึ่งยังเหลือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 27-28 ต.ค. และ 15-16 ธ.ค.ประกอบการการที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยความหวังว่าจะดันให้ตัวเลขจีดีพีของไทยไปไกลถึง 3%
ขณะที่ยังมีปัจจัยถ่วงในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ว่า ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2009 โดยลดลง 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนและต่ำกว่าการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 3.4%
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ประกอบกับการที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาเป็นฝั่ง Net Buy ตลาดหุ้น และ TFEX
ดังนั้น ประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด ก่อนจะย่อพักตัวเพื่อรอการ Preview งบ Q3/58 ของบริษัทจดทะเบียน แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT PTTEP PTTGC TOP เนื่องจากได้รับอานิสงส์ในเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรง และกลุ่มที่เกี่ยวกับการส่งออก ได้แก่ กลุ่มอาหาร และและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง รวมทั้งกลุ่มอสังหาฯ แนะนำ SIRI PS SPALI QH LPN จากที่คาดจะว่าจะได้ข้อสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในไม่นานนี้
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,172,861 ล้านบาท ปิดที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30
2. JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,024,402 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.05
3. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,640,357 ล้านบาท ปิดที่ 234.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,433,676 ล้านบาท ปิดที่ 268.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. TFG มูลค่าการซื้อขาย 1,331,964 ล้านบาท ปิดที่ 1.90 บาท ลดลง 0.05
น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า แนวโน้มภาวะตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นมาใกล้ระดับ 50 USD/Barrel ซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงานที่มีมาร์เกตแคปขนาดใหญ่ และราคาหุ้นพลังงานที่เพิ่มขึ้นจะหนุนต่อดัชนี SET รวมถึงแรงหนุนจากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ซึ่งยังเหลือ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 27-28 ต.ค. และ 15-16 ธ.ค.ประกอบการการที่ทีมเศรษฐกิจชุดใหม่เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงโค้งสุดท้ายด้วยความหวังว่าจะดันให้ตัวเลขจีดีพีของไทยไปไกลถึง 3%
ขณะที่ยังมีปัจจัยถ่วงในเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่เป็นไปอย่างล่าช้า เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยล่าสุด กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ว่า ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้สู่ระดับ 3.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2009 โดยลดลง 0.2% จากตัวเลขคาดการณ์ครั้งก่อนและต่ำกว่าการขยายตัวในปีที่แล้วที่ 3.4%
ด้าน นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก จำกัด ประเมินกลยุทธ์การลงทุนใน SET ว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น ประกอบกับการที่ Fund Flow ของนักลงทุนต่างชาติที่พลิกกลับมาเป็นฝั่ง Net Buy ตลาดหุ้น และ TFEX
ดังนั้น ประเมินว่า SET จะปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,390-1,400 จุด ก่อนจะย่อพักตัวเพื่อรอการ Preview งบ Q3/58 ของบริษัทจดทะเบียน แนะนำลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน ได้แก่ PTT PTTEP PTTGC TOP เนื่องจากได้รับอานิสงส์ในเรื่องราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นแรง และกลุ่มที่เกี่ยวกับการส่งออก ได้แก่ กลุ่มอาหาร และและอิเล็กทรอนิกส์ ที่ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง รวมทั้งกลุ่มอสังหาฯ แนะนำ SIRI PS SPALI QH LPN จากที่คาดจะว่าจะได้ข้อสรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในไม่นานนี้
หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่
1. TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,172,861 ล้านบาท ปิดที่ 10.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30
2. JAS มูลค่าการซื้อขาย 2,024,402 ล้านบาท ปิดที่ 5.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.05
3. ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,640,357 ล้านบาท ปิดที่ 234.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00
4. PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,433,676 ล้านบาท ปิดที่ 268.00 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง
5. TFG มูลค่าการซื้อขาย 1,331,964 ล้านบาท ปิดที่ 1.90 บาท ลดลง 0.05
