ทุกคนเคยได้ชมภาพยนตร์เรื่อง The Matrix กันไหมครับ เรื่องย่อๆ ก็คือ โลกมนุษย์ถูกยึดครองโดยหุ่นยนต์แม้มนุษย์จะทำลายชั้นบรรยากาศไม่ให้แสงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของพวกหุ่นยนต์ส่องถึงพื้น แต่เครื่องจักรก็ยังจับมนุษย์มาเป็นพลังงานโดยทำให้หลับ และสร้างโลกเสมือนจริงขึ้นในความฝันเพื่อทำให้เกิดพลังงานขึ้น กลุ่มมนุษย์ซึ่งรอดพ้นจากการถูกจับจึงได้เข้าไปในระบบเพื่อก่อกวนพวกหุ่นยนต์ และดึงคนกลับออกมาจากโลกเสมือนจริง
ที่ผมยกตัวอย่างนี้ขึ้นมาเพื่อที่จะบอกเล่าว่า ตลาดหุ้นก็ไม่ต่างอะไรจากโลกเสมือนจริงที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้โลกแห่งความจริง ส่วนนักลงทุนรายย่อยก็เหมือนกับมนุษย์ที่ถูกดึงเข้าไปอยู่ในโลกเสมือนจริงเป็นผู้เล่นที่มีอยู่จำนวนมาก โดยเบื้องหลังมีกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่กำลังต่อสู้กันเพื่อชิงความเป็นเจ้าแห่งโลกเสมือนจริง
โอวว นี่ผมจินตนาการออกไปไกลมากแล้ว...กลับมาที่หัวข้อที่จะเล่าสู่กันฟังในวันนี้ ถ้าเราอ่านทฤษฎีการลงทุนต่างๆ ซึ่งอธิบายถึงเหตุผลในการขึ้นลงของราคาจะพบว่า มีการอธิบายไว้อย่างหลากหลาย เช่น ผลประกอบการที่เติบโตทำให้หุ้นขึ้น หรือมีปัจจัยแวดล้อมมาผลักดัน เช่น เศรษฐกิจมหาภาค ฟันด์โฟลว์ เส้นกราฟทางเทคนิค หรือแม้กระทั่งมีเจ้ามือมาทำให้หุ้นขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้วลองคิดดูครับว่าอะไรที่ทำให้ราคาหุ้นในกระดานมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลง ลึกๆ แล้วมนุษย์ หรือนักลงทุนต่างหากครับที่ทำให้ราคาหุ้นเปลี่ยนแปลง โดยมีสิ่งเร้าก็คือ ปัจจัยต่างๆ ทั้งภายนอก และภายในที่เข้ามากระทบความรู้สึกของมนุษย์ ทั้งอารมณ์กล้า มั่นใจ ซึ่งทำให้หุ้นขึ้น และอารมณ์กลัว วิตกกังวล ซึ่งทำให้หุ้นลง อย่าลืมครับว่าตัวเลขงบการเงิน กราฟเทคนิค หรือข่าว เหตุการณ์ต่างๆ เป็นสิ่งไม่มีชีวิตนะครับไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อราคาหุ้น แต่ผู้ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาคือ มนุษย์ หรือนักลงทุนนั่นเอง
ราคาหุ้นในมุมมองของผมจึงเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวตามจินตนาการของมนุษย์ หรือนักลงทุนนั่นเอง ถ้าเราจินตนาการว่ากิจการจะดีขึ้นด้วยปัจจัยต่างๆ จะนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าจินตนาการว่ากิจการจะแย่ด้วยปัจจัยต่างๆ ก็จะนำไปสู่การตัดสินใจขาย
ตลาดหุ้นในมุมมองของผมจึงเปรียบเสมือนโลกเสมือนจริงแห่งหนึ่งที่มีอารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุนเป็นแหล่งพลังงานสำคัญคอยขับเคลื่อนให้เกิดพลวัตการเปลี่ยนแปลง โดย 2 อารมณ์ที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญก็คือ “กล้า” ในภาวะที่ตลาดเป็นขาขึ้น หรือ Bullish และ “กลัว” ในภาวะตลาดขาลงรวมถึงไซด์เวย์
ขึ้นชื่อว่าอารมณ์ของมนุษย์ย่อมมีความผันผวนและแปรปรวนอยู่เสมอ ผมขอฟันธงว่า การลงทุนในตลาดหุ้นจึงเป็นเรื่องของ “อารมณ์” มากกว่า “เหตุผล” ซึ่งสวนทางกับตำราต่างๆ ที่อ้างอิง Logic ต่างๆ ในเชิงปริมาณ หรือตัวเลขในการวิเคราะห์การลงทุน แน่นอนว่าอะไรที่ขับเคลื่อนด้วยอารมณ์จะต้องมี “จุดบกพร่อง” แฝงอยู่เสมอในภาวะที่คนกล้าสุดขีดจะดันให้ราคาหุ้นขึ้นเกินกว่าเหตุผล ขณะเดียวกัน ภาวะที่คนกลัวสุดขีดก็ทำให้ราคาหุ้นลงเกินกว่าเหตุผลได้เช่นกัน หากเราสามารถจับอารมณ์ของตลาดได้ และเข้าใจว่าตลาดถูกขับเคลื่อนด้วยความไม่มีเหตุผลมากกว่าความมีเหตุผล จะช่วยป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนของเราได้ครับผม
นเรศ เหล่าพรรณราย
ติดตามรายละเอียดของโครงการได้ที่ www.supertrader.co.th
SuperTrader รายการเรียลิตีการลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ เข้มข้นด้วยความรู้จากโค้ชผู้มากประสบการณ์ ผ่านบททดสอบจากตลาดหุ้นจริง
