ซีอีโอ SSI เผยบอร์ดไฟเขียวยื่นขอฟื้นฟูกิจการแล้ว ขณะที่ธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่หนุนให้บริษัทบริหารงานต่อไป โดยจะพิจารณาให้การสนับสนุนวงเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมเพื่อให้บริษัทมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยให้ที่ปรึกษาทางการเงินทำหน้าที่ควบคุมเงินสด และกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะให้ความร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้าของบริษัทในการดำเนินธุรกิจ ขณะที่สินค้าหลักแผ่นเหล็กรีดร้อนมีแนวโน้มเติบโตสูง ตามการขยายตัวของตลาดในประเทศ และภูมิภาค
นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้มติเห็นชอบให้บริษัทปรับปรุงโครงสร้างทางการเงิน โดยยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลในวันที่ 1 ต.ค.2558 และอนุมัติให้บริษัทเป็นผู้ทำแผนการฟื้นฟูกิจการ
โดยกรณีนี้ อำนาจ หน้าที่ และความรับผิดในฐานะผู้ทำแผนการฟื้นฟูกิจการตกเป็นของกรรมการของบริษัทที่มีชื่อตามหนังสือรับรอง โดยอนุมัติมอบอำนาจให้ นายวิน หรือนายณรงค์ฤทธิ์ โชตินุชิตตระกูล ในฐานะผู้บริหารของบริษัทเป็นผู้ทำแผน
นายวิน กล่าวอีกว่า กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่ และบริษัทฯ ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า การเข้าสู่ศาลฟื้นฟูกิจการจะทำให้บริษัทฯ ได้รับการปรับปรุงเเก้ไขสภาพคล่องทางการเงินให้ดีขึ้นเพียงพอต่อการสนับสนุนให้ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนในประเทศไทยดำเนินต่อไปได้อย่างมีเสถียรภาพ เนื่องจากราคาเหล็กแท่งแบนที่ลดลงมามาก ทำให้ธุรกิจเหล็กแผ่นรีดร้อนมีความสามารถในการแข่งขันสูง และสามารถทำกำไรได้ดี โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มพิเศษ (Premium Value Products) ที่มีส่วนต่างราคาสูง
นอกจากนี้ ยังรวมถึงโอกาสในการขยายตลาดเพิ่มมากขึ้นจากการเจริญเติบโตของภูมิภาคอาเซียนที่มีปริมาณการบริโภคเหล็ก 60 ล้านตันต่อปีในปัจจุบัน และจะเติบโตไปเป็น 80 ล้านตันต่อปีภายใน 3 ปีข้างหน้า จากปริมาณความต้องการใช้เหล็กในประเทศที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันปริมาณการบริโภคเหล็กเฉลี่ยในไทยยังสูงอยู่ที่ 17 ล้านตันต่อปี
ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะสนับสนุนให้บริษัทบริหารงานต่อไป โดยจะพิจารณาให้การสนับสนุนวงเงินหมุนเวียนเพิ่มเติมตามสมควร เพื่อให้บริษัทมีสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ โดยให้ที่ปรึกษาทางการเงินทำหน้าที่ควบคุมเงินสด (Cash Monitoring) ของบริษัท และกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้รายใหญ่จะให้ความร่วมมือสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้าของบริษัทในการดำเนินธุรกิจต่อไป
ส่วนสาเหตุที่บริษัทต้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากบริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี ยูเค จำกัด (SSI UK) ที่บริษัทถือหุ้น 100% แจ้งหยุดผลิตเหล็กแท่งแบนชั่วคราวที่โรงงานเอสเอสไอทีไซด์ของธุรกิจโรงถลุงเหล็ก และได้ถูกกลุ่มธนาคารเจ้าหนี้เงินกู้ ประกอบด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ กรุงไทย และทิสโก้ มูลหนี้รวม 23,900 ล้านบาท เรียกให้ชำระหนี้ที่ค้างอยู่ตามเงื่อนไขการกู้ยืมเงิน และได้เรียกให้บริษัทเป็นผู้ชำระหนี้ของ SSI UK ในฐานะผู้ค้ำประกัน ซึ่งบริษัทไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ได้
