“กลุ่มอรรถกระวี” ผุดโปรเจกต์ สวนเพลิน มาร์เก็ต จับคนทำงานออฟฟิศ-ครอบครัว ย่านพระราม4 บนพื้นที่11ไร่ มูลค่ากว่า2,000 ล้านบาทคาดปีแรกรายได้จากค่าเช่า150ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลงทุนรีเทลย่านพระราม9 เลียบถนนประดิษฐ์มนูญธรรมบนพื้นที่33ไร่ แจงภาษีที่ดินหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ที่ผลักดันให้ต้องเร่งลงทุนบนที่ดินสะสมหลังหยุดลงทุนยาวตั้งแต่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ
ร.อ.อติชาติ อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริการ บริษัท อรรถเคหะพัฒน์ จำกัด ในเครื่อ “กลุ่มอรรถกระวี” เปิดเผยว่า กลุ่มอรรถกระวี เป็นแลนด์ลอร์ดรายใหญ่ที่ถือครองที่ดินย่านพระราม4 โดยมีที่ดินในครอบครองกว่า100 ไร่ เป็นที่ดินมรดกของตระกูล ซึ่งบริหารจัดการและดูแลทรัพย์สินในรูปแบบบริษัท ที่ผ่านมาที่ดินของกลุ่มอรรถกระวี มีการแบ่งการพัฒนาใน2รูปแบบ คือพัฒนาเพื่อขาย ซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างน้อย และพัฒนา เพื่อเช่าเป็นการพัฒนาโครงการออฟฟิศเช่าส่วนใหญ่ และถือเป็นรายได้หลักของกลุ่มฯ
สำหรับนโยบายการลงทุนและพัฒนาโครงการอสังหาริมรัพย์ของกลุ่มอรรถกระวี จะเน้นการพัฒนาที่ดินสะสมของตระกลูในย่านพระราม4-สุขุมวิท 100ไร่ และที่ดินสะสมย่านพระราม9ที่ซื้อเข้ามา300ไร่ ในรูปแบบเพื่อปล่อยเช่าเป็นหลัก มีบางส่วนที่พัฒนาเพื่อขายในรูปแบบคอนโดมิเนียมน้อยมาก โดยในช่วงที่ผ่านมากลุ่มฯได้นำที่ดินในย่ายสุขุมวิทและพระราม4 มาทยอยพัฒนาปล่อยเช่าในรูปแบบคอนโดและออฟฟิศเช่า
ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหน้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ กลุ่มอรรถกระวี มีการลงทุนพัฒนาโครงการทั้งในรูปแบบเพื่อขายและเช่า แต่ได้พักการลงทุนและพัฒนาโครงการทั้งหมดหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ และเริ่มกลับมาลงทุนพัฒนาโครงการใหม่เมื่อ3-4 ปีที่ผ่านมา โดยโครงการแรกที่กลับมาพัฒนาคือโครงการ เอ สแควร์โครงการออฟฟิศเช่า ล่าสุด ได้นำที่ดินจำนวน11ไร่ในซอยสุขุมวิท26 เชื่อมต่อถนนพระราม4 ซึ่งเป้นแปลงสุดท้ายในย่านพระราม4มาลงทุนพัฒนาโครงการ “สวนเพลิน มาร์เก็ต” ซึ่งมีพื้นที่พัฒนากว่า 10,000 ตารางเมตร โดยใช้งบลงทุนก่อสร้าง350 ล้านบาท มูลค่ารวมโครงการ 2,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสแรกปี59 นี้
“กลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการสวนเพลิน มาร์เก็ต คือ พนักงานออกฟิศ และกลุ่มครอบครัวในรัศมี3กิโลเมตรของโครงการ ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 10,000 คน โดยในโครงการดังกล่าวจะมีร้านค้าบริการลูกค้าทั้งในรูปแบบร้านค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่รวม250ร้านค้า โดยค่าเช่าของร้านค้าขนาดเล็กจะอยู่ที่ 300 บาทต่อตารางเมตร(ตร.ม.) และมีสัญญาเริ่มต้นที่1ปี ส่วนร้านขนาดใหญ่จะมีอัตราค่าเช่าที่ 700-900 บาทต่อตร.ม. สัญญาเริ่ม7ปีไปถึง15 ปี โดยในปีแรกคาดว่าจะมีรายได้จากค่าเช่า150ล้านบาท”
ร.อ.อติชาติ กล่าวว่า สำหรับที่ดินในย่านพระราม9 ซึ่งมีอยู่300ไร่นั้น บริษัทมีแผนจะนำที่ดินแปลงใหญ่ที่อยู่ติด4แยกพระราม9 เลียบถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ซุ่งมีพื้นที่ 33 ไร่มาพัฒนาในรูปรีเทล ซึ่งจะพัฒนาเป็นโครงการขนาดใหญ่ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในพื้นที่ในช่วง1-2ปีข้างหน้า และที่ดินแปลงอื่นๆที่เหลือจะพิจารณาว่าจะมีความเหมาะสมในการลงทุนด้านใด แต่จะไม่ปล่อยเช่าที่ดินเปล่าให้กับบริษัทรายเล็ก เพราะมีปัญหาในการให้ออกจากพื้นที่หลังหมดสัญญา
“ที่ดินสะสมของกลุ่มฯที่มีอยู่ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวมากนักในช่วง70-80ปีที่ผ่านมา แต่ที่กลับมาเคลื่อนไหวหรือมีการลงทุนพัฒนาหรือปล่อยเช่าส่วนหนึ่งเนื่องมาจากกฎหมายภาษีที่ดิน ทำให้กลุ่มต้องมีการผลักดันให้เกิดการพัฒนาและลงทุนมากขึ้น”