xs
xsm
sm
md
lg

แบงก์ พลังงาน กดดัชนีร่วง 24.70 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ตลาดหลักทรัพย์วันนี้ปิดที่ระดับ 1,352.13 จุด ลดลง 24.70 จุด (-1.79%) มูลค่าการซื้อขาย 28,592.05 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลง-วอลุ่มเทรดบางไร้ปัจจัยหนุน เมื่อแรงขายจากต่างชาติ-สถาบัน-พอร์ตโบรกฯ ทำให้ตลาดฯปรับลงแรง แต่มองเป็นการลงตามรอบ และปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่ม TIP เหตุภาพรวมเศรษฐกิจไม่ดี มีเพียงสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ยปีนี้ส่งผลดอลลาร์กลับมาแข็งค่า พรุ่งนี้ตลาดฯ มีลุ้นรีบาวนด์หลังร่วงแรง ให้แนวรับ 1,350 แนวต้าน 1,365-1,378 จุด

การซื้อขายหุ้นวันนี้ (28 ก.ย.) ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,369.10 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,352.02 จุด

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการสายงานวิจัย บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่า การเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้จะยังคงผันผวนในกรอบ 1,362-1,394 จุด โดยยังคงมีปัจจัยกดดันตลาดอย่างต่อเนื่อง ทั้งการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งที่ผ่านมา และการที่ประธานเฟดออกมาบอกว่าจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ ส่งผลกดดันตลาดหุ้น อีกทั้งปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในความกังวล และความเป็นไปได้ว่ายุโรปอาจมีวิกฤตรอบใหม่ ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่บริษัท Volkswagen ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ที่ในสหรัฐฯ มียอดขายสูงที่สุด อาจโดยค่าปรับสูงถึง 18,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการที่ปรับแต่งรถยนต์ทดสอบให้ปล่อยก๊าซเสียน้อยกว่าจริง ซึ่งมีความเสี่ยงที่บริษัทอาจจำเป็นต้องเลิกจ้างพนักงานบางส่วน หากยอดขายใน 6 เดือนข้างหน้าตกลง จากกรณีดังกล่าวจะกระทบกับเศรษฐกิจในยุโรปอย่างหนักจากการเป็นผู้ว่าจ้างแรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค

นอกจากนี้ ในสัปดาห์นี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจเดือนสิงหาคมออกมา ซึ่งคาดว่าจะไม่ดีนัก และจะมีรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ออกมาซึ่งจะมีรายละเอียดการประชุมครั้งก่อน โดยที่ผ่านมา ธปท. ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ เหลือ 2.7% และปรับตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของปี 2559 ที่ 3.7% โดยมีมุมมองว่า เศรษฐกิจปีหน้าจะดีกว่าปีนี้จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการประมูล 4G และโครงการโครงสร้างขั้นพื้นฐาน จะเริ่มเห็นผลมากขึ้นในไตรมาส 4 เป็นต้นไป
 
 ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่           
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,489.87 ล้านบาท ปิดที่ 456.00 บาท ลดลง  10.00 บาท               
ITD     มูลค่าการซื้อขาย 1,343.43 ล้านบาท ปิดที่   8.05 บาท ลดลง   0.40 บาท         
KBNAK   มูลค่าการซื้อขาย 1,205.97 ล้านบาท ปิดที่ 177.50 บาท ลดลง   4.50 บาท                     
CPALL   มูลค่าการซื้อขาย 1,196.62 ล้านบาท ปิดที่  48.25 บาท ลดลง   1.50 บาท         
PTT     มูลค่าการซื้อขาย 1,071.63 ล้านบาท ปิดที่ 245.00 บาท ลดลง   5.00 บาท
 
 
 
 


กำลังโหลดความคิดเห็น