“รมว.คลัง” ยืนยันไม่ได้ยุติหรือทิ้ง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เผยอยู่ระหว่างการศึกษา เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย คาดมาตรการกระตุ้นชุดแรก 1.3 แสนล้าน ช่วยให้ ศก. เติบโตได้ 0.4% แต่ทั้งปีจะโตเท่าไรคงไม่สำคัญ เพราะรัฐบาลชุดนี้มาดูแลไม่ให้ ศก. ทรุดไปกว่าเดิม ไม่ได้มาปรับจีดีพีให้สูงขึ้น แต่มาช่วยประคองให้ดีขึ้นเท่านั้น พร้อมยืนยันไม่มีแนวคิดจะปรับขึ้นแวต 7% แต่อาจต้องประเมินกันแบบปีต่อปี
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษา ไม่ได้ยุติ หรือทิ้งเรื่องดังกล่าว แต่การออกกฎหมายต้องให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ซึ่งมีหลายทางเลือก เช่น แนวทางการเก็บภาษีของเก่า ก็ให้ไปศึกษาเพิ่มเติม และจะทำให้เสร็จภายในปีนี้ จะได้ทำให้คนที่เกี่ยวข้องไม่เกิดความกังวล
รมว.คลัง กล่าวเสริมว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น วงเงิน 1.36 แสนล้านบาท ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ 0.4% แต่ทั้งปีจะโตเท่าไหร่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ เพราะรัฐบาลชุดนี้มาดูแลไม่ให้เศรษฐกิจทรุดไปกว่าเดิม ไม่ได้มาปรับจีดีพีให้สูงขึ้น แต่มาช่วยประคองให้ดีขึ้นเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตได้ดีกว่าปี 2557 ที่จีดีพีโต 0.9% ซึ่งปีนี้ครึ่งปีแรกจีดีพีเติบโตไปแล้ว 2.9% แต่คนยังรู้สึกว่าเศรษฐกิจไม่ดี ดังนั้น ตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีไม่ได้ตัดสินเสมอไปว่า ความเป็นอยู่ของประชาชนจะดี
ส่วนความคืบหน้าเรื่องต่ออายุมาตรการลดหย่อนภาษีกองทุนหุ้นระยะยาว (แอลทีเอฟ) ขณะนี้กำลังไปศึกษาความเหมาะสมว่าจะต่ออายุเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ตลาด หรือปรับเงื่อนไขเพื่อป้องกันให้ผู้มีรายได้มากไม่ใช้เป็นช่องทางหักลดหย่อนรายได้เพิ่มขึ้น
รมว.คลัง ยังได้ยืนยันว่า ขณะนี้รัฐบาลไม่มีแนวคิดจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) ที่ปัจจุบันคงอยู่ที่ 7% ซึ่งจะต้องทบทวนปีต่อไปหลังจากที่ต่ออายุไปแล้ว หากสามารถผลักดันให้เกิดการชำระเงินด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (อีเปย์เมนต์) และการทำให้ธุรกิจเหลือบัญชีชำระภาษีแค่บัญชีเดียวได้ ก็จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการอุดช่องโหว่เลี่ยงภาษี โดยไม่ต้องขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะมีความชัดเจนในอีก 2-3 เดือน