xs
xsm
sm
md
lg

คลังชงอัดฉีดหมู่บ้านสกัดศก.ดิ่งเหว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - รมว.คลังชง ครม.อัดฉีดระดับรากหญ้าผ่านกองทุนหมู่บ้าน พร้อมเร่งมือโครงการขนาดเล็กที่สะดวกรวดเร็ว เป็นการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ทันที เพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจลงลึกไปกว่านี้ มั่นใจจีนลดดอกเบี้ยไม่ใช่สงครามค่าเงิน แต่เป็นการดันจีดีพี 7% ตามเป้า

จากกรณีที่รัฐบาลจะออกมาตรการเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ โดยเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในสัปดาห์หน้านั้น นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยในงานสัมมนาวิชาการ "นวัตกรรมการคลังการเงินเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย" จัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ว่า ในส่วนของการเติมเงินให้กับเศรษฐกิจในระดับรากหญ้านั้นจะดำเนินการผ่านกลไกกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งอาจจะเป็นคนละโปรแกรมกับโครงการกองทุนหมู่บ้านที่มีอยู่เดิม 40,000 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ทันทีหลังจาก ครม.มีมติอนุมัติ

"จะใช้เงินเท่าไร จะปลอดดอกเบี้ยหรือไม่ หรือการให้รัฐบาลค้ำประกันหรือไม่นั้น ขอให้ผ่าน ครม.ก่อน โดยแนวคิดนี้ทีมเศรษฐกิจเชื่อว่าจะเป็นการเติมเงินให้แก่รากหญ้าได้อย่างทั่วถึง เพราะกองทุนหมู่บ้านไม่ได้ดูแลแค่เกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางในการกระจายไปถึงรากหญ้าทั้งต่างจังหวัดและที่อยู่ในเมืองได้อย่างครบทุกหมู่บ้าน"

ส่วนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐนั้น เป็นโครงการที่ต้องใช้ระยะเวลานาน และเม็ดเงินส่วนใหญ่จะลงไปถึงเพียงแค่ระดับผู้รับเหมารายใหญ่เท่านั้น ดังนั้น ในช่องว่างที่ต้องใช้ระยะเวลานานระหว่างที่โครงการขนาดใหญ่ยังไม่เกิดขึ้นนั้น รัฐบาลเชื่อว่าการเติมเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เร็วสุดในระยะเวลาสั้นๆ คือการดำเนินโครงการขนาดเล็ก ซึ่งจะมีขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างที่รวดเร็วกว่าและสามารถเบิกจ่ายเงินงบประมาณได้เร็วกว่า โดยรัฐบาลจะเร่งผลักดันในส่วนนี้เพื่อให้เม็ดเงินเข้าไปเติมในระบบเศรษฐกิจได้เร็วขึ้น

"เราจะทำในเบื้องต้นก่อน ด้วยการเติมช่องว่างในส่วนที่ขาด เพื่อพยุงไม่ให้เศรษฐกิจลงลึกไปกว่านี้ เพราะหากเศรษฐกิจลงลึก แหล่งเงินที่จะใช้ดึงขึ้นต้องมากกว่านี้" นายอภิศักดิ์กล่าวและว่า รัฐบาลจะพยายามสร้างแรงจูงใจในการลงทุนของภาคเอกชนให้มากขึ้น เนื่องจากมองว่าขณะนี้ทั่วโลกมีแหล่งเงินมากเพียงพอ เพียงแต่จะเลือกเข้าไปลงทุนในประเทศที่มีแรงจูงใจหรือมีผลตอบแทนที่น่าสนใจมากกว่า ดังนั้นไทยจะต้องทำให้นักลงทุนต่างชาติรู้สึกว่าเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจและพร้อมที่จะเข้ามาลงทุน

"ไทยจะต้องทำตัวให้รู้สึกว่าเราเป็นแหล่งที่ต่างชาติอยากจะเข้ามาลงทุน โจทย์สำคัญที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังต้องคิดในตอนนี้ คืออะไรที่จะทำให้ไทยเป็นแหล่งดึงดูดของต่างชาติ ซึ่งจะกระตุ้นให้เราสามารถก้าวกระโดดไปอีกขั้น" รมว.คลังกล่าว

นอกจากนี้ รัฐบาลจะผลักดันให้ผู้ประกอบการของไทยใช้บัญชีเดียวเช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว เพื่อให้ประเทศมีระบบการชำระภาษีที่ถูกต้อง ทำให้รัฐบาลสามารถเก็บภาษีได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย รวมถึงจะผลักดันเรื่องการใช้ระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แทนระบบเงินสดให้มากขึ้น เพราะจะทำให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูลทางบัญชีและการเงินของผู้ประกอบการที่ถูกต้อง ทำให้เห็นถึงความสามารถในการชำระภาษีที่แท้จริงของผู้ประกอบการ ซึ่งนำมาสู่ข้อมูลการจัดเก็บรายได้ที่มากขึ้นอย่างถูกต้อง ทำให้เราได้เห็นถึงสถานะทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนของประเทศ

 มั่นใจจีนมีเครื่องมืออื่นปั๊มจีดีพี

นายอภิศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่ธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ว่า คงไม่ทำให้เกิดปัญหาสงครามค่าเงินในภูมิภาค การที่จีนลดอัตราดอกเบี้ยลงก็เป็นการทำเพื่อดูแลเศรษฐกิจในประเทศให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะให้มีการขยายตัวได้ 7% เชื่อว่าจีนยังมีเครื่องมือที่จะนำมาใช้อีกมากในการประคองเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอตัว

"จีนยังมีเครื่องมือ ยังมีกระสุนอีกเยอะมากที่จะใช้ประคองเศรษฐกิจ เพราะเศรษฐกิจจีนเป็นเศรษฐกิจที่เขาบริหารจัดการ ไม่ได้ปล่อยไปตามตลาดอย่างเดียว มีบางประเทศที่ใช้มาตรการบางอย่างเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของเขาเอง แต่ไม่น่ากลายเป็นสงครามค่าเงิน" รมว.คลังกล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น