ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส ชูโมเดลแฟรนไชส์ตู้เติมเงินสุดแข็งแกร่ง เน้นคุณภาพการให้บริการลูกค้าเป็นสำคัญ มองโอกาสตลาดเติมเงินมือถือยังมีอีกมาก เหตุคนยังใช้ระบบเติมเงินกว่า 86% ของจำนวนผู้ใช้มือถือกว่า 94 ล้านเบอร์ทั่วประเทศ ชี้ตู้เติมเงินบุญเติมมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% ของตลาดเติมเงินมือถือโดยรวม มั่นใจด้วยระบบแฟรนไชส์จะขยายตู้เติมเงินได้ตามเป้า 60,000 ตู้ปีนี้ ผลักดันยอดเติมทะลุ 15,000 ล้านบาท เผยปิดดีลโฆษณากับ AIS รายได้ทยอยเข้าไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมตั้งตู้เติมเงินในปั๊ม PTG เพิ่มศักยภาพตามแผนการหารายได้ 5 ช่องทาง (Digital Retail Channel) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART ผู้ให้บริการตู้เติมเงิน และชำระเงินออนไลน์แบบเบ็ดเสร็จ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “บุญเติม” เปิดเผยมุมมองตลาดตู้เติมเงินมือถือในปัจจุบันว่า ตลาดเติมเงินมือถือยังมีช่องทางการขยายตัวอีกมาก เนื่องจากมีผู้ใช้งานระบบเติมเงินมากกว่าระบบรายเดือน หรือประมาณ 86% ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ 94 ล้านเบอร์ทั่วประเทศ โดยเฉพาะผู้ใช้ในต่างจังหวัด หรือผู้ที่ต้องการควบคุมเรื่องค่าใช้จ่ายในการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยตู้เติมเงินบุญเติมที่เป็นผู้นำตลาดตู้เติมเงินมีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 10% ของตลาดเติมเงินมือถือโดยรวม แสดงให้เห็นถึงโอกาสในการขยายจำนวนตู้เติมเงินเพิ่มเติมได้อีก โดยปัจจุบันมีตู้เติมเงินบุญเติมทั่วประเทศแล้วกว่า 55,000 ตู้ และยังขยายจำนวนตู้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ที่ผู้ใช้งานต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น
สำหรับการบริหารงานของบริษัทเป็นในลักษณะแฟรนไชส์ที่ครอบคลุมทุกจังหวัด โดยบริษัทวางนโยบายให้แก่ตัวแทนบริการตั้งแต่การลงทุนด้วยจำนวนเงินที่ทุกคนสามารถลงทุนได้ ค่าคอมมิชชันที่เหมาะสม การเลือกที่ตั้งตู้เติมเงินในทำเลที่มีศักยภาพ รวมไปถึงการเพิ่มจำนวนบริการหน้าตู้เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น ตลอดจนบริการหลังการขายที่ดี และศูนย์ Call Center ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และกิจกรรมส่งเสริมการขายที่จะช่วยให้มีการใช้งานตู้มากขึ้น สิ่งต่างๆ เหล่านี้ได้สะท้อนออกมาเป็นระดับยอดเติมเงินเฉลี่ยต่อตู้ของบริษัทที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคุณภาพในการให้บริการลูกค้านี้จะเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ตัวแทนบริการ และผู้ซื้อแฟรนไชส์มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่งไปพร้อมกับบริษัท และจะเป็นตัวตัดสินการใช้งานของลูกค้าในระยะยาวต่อไปอีกด้วย
ขณะที่ล่าสุด ได้เซ็นสัญญากับ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เพื่อติดตั้งตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมในสถานีน้ำมัน PT โดยเริ่มเฟสแรก จำนวน 43 สาขา ทั้งในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ก่อนจะขยายการติดตั้งให้ครอบคลุมตามแผนขยายจำนวนปั๊ม PT ในอนาคต จากที่ก่อนหน้านี้ บริษัทได้มีความร่วมมือกับบริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD ในการตั้งตู้ เช่น การตั้งตู้หน้าสาขาของ SAWAD เฟสแรก 208 สาขา ทั้งนี้ จากการขยายตู้เติมเงินที่เป็นไปตามแผน ทำให้บริษัทเชื่อว่าในปีนี้จะสามารถขยายจำนวนตู้เติมเงินบุญเติมได้ 60,000 ตู้ และยอดเติมเงินที่ 15,000 ล้านบาทตามเป้าหมาย
“โทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้นทุกวัน จึงเป็นโอกาสที่ธุรกิจเติมเงินมือถือจะเติบโตอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเติมเงินผ่านตู้เติมเงิน หรือผ่านช่องทางอื่นๆ รวมถึงผู้ใช้งานระบบเติมเงินยังมีมากกว่าระบบรายเดือน ทำให้มีผู้ประกอบการหลายรายพยายามเข้ามาทำตลาด ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่จะเข้ามาช่วยพัฒนาตลาดให้มากขึ้น โดยบริษัทเชื่อมั่นในระบบแฟรนไชส์ที่แข็งแกร่งจากการดำเนินงาน และการพัฒนาตัวแทนบริการมาตลอด 7 ปี มีการขยายจำนวนตู้ต่อเนื่อง และมีการบริการหน้าตู้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากพันธมิตรที่ไว้วางใจให้เราเป็นตัวแทนรับชำระเงิน ด้วยจำนวนผู้ใช้บริการต่อวันเฉลี่ย 1.3 ล้านรายการ ซึ่งเชื่อว่าในปีนี้จำนวนตู้ และยอดเติมเงินจะเป็นไปตามเป้าหมายอย่างแน่นอน” นายสมชัย กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังเพิ่มศักยภาพในการหารายได้จากช่องทางการโฆษณาเพิ่มขึ้น โดยล่าสุดได้ทำสัญญากับบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)(AIS) ในการลงจะลงโฆษณาหน้าตู้ที่เริ่มดำเนินการไปแล้ว และในเดือนพฤศจิกายนจะลงโฆษณาขาตั้งตู้เติมเงิน (wrap) ซึ่งคาดว่าจะส่งผลต่อรายได้ในส่วนของโฆษณาให้เติบโตอย่างเห็นได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 4 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่ใช้ช่องทางในการโฆษณาสินค้าและบริการ เช่น ยูนิลีเวอร์ เบียร์ช้าง ไอศกรีมวอลล์ ยูไนเต็ดฟูดส์ น้ำดื่มสิงห์ และเอไอเอส