ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส เผยผลประกอบการไตรมาส 3 บริษัทมีรายได้รวม 433 ล้านบาท กำไร 71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 45% และ 101% ส่วนงวด 9 เดือนมีรายได้รวม 1,194 ล้านบาท กำไร 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 44% และ 94% เหตุขยายจำนวนตู้เติมเงินได้ดีกว่าเป้าหมายปี 2558 ที่วางไว้ 60,000 ตู้แล้ว ตอกย้ำผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุด พร้อมส่งเครื่องชั่งน้ำหนัก และตู้กดน้ำดื่มสะอาดลงตลาดเพิ่มช่องทางการหารายได้
นายสมชัย สูงสว่าง กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟอร์ท สมาร์ท เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ FSMART เปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 3/2558 ว่า บริษัทมีรายได้รวม 433 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 45% ที่มีรายได้ 300 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 71 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 36 ล้านบาทจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ผลประกอบการงวด 9 เดือน บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,194 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 364 ล้านบาท ที่มีรายได้ 830 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราส่วนเพิ่มขึ้น 44% กำไรสุทธิอยู่ที่ 195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 95 ล้านบาท หรือ 94% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 100 ล้านบาท
การเติบโตของรายได้ และกำไรดังกล่าวมาจากยอดเติมเงินผ่านตู้เติมเงินออนไลน์บุญเติมที่เพิ่มขึ้นกว่า 44% จากยอดเติมเงิน 7,567 ล้านบาทในงวด 9 เดือนปี 2557 เป็นยอดเติมเงิน 10,888 ล้านบาทในงวด 9 เดือนปี 2558 หลังจากบริษัทสามารถขยายจำนวนตู้เติมเงินออนไลน์ได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยบริษัทเคยตั้งเป้าจำนวน “ตู้บุญเติม” ณ สิ้นปี 2558 ไว้ที่ 57,000 ตู้ ก่อนขยับเป้าหมายเป็น 60,000 ตู้ ตอนไตรมาส 1 ปี 2558 ซึ่ง ณ วันที่ 30 กันยายน 2558 บริษัทได้ขยายจำนวนตู้ทะลุเป้าหมายไปแล้วด้วยจำนวน 61,076 ตู้ ทำให้ “ตู้บุญเติม” ให้บริการลูกค้าได้ครอบคลุมมากกว่าเดิม อีกทั้งยังเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้มากขึ้น ด้วยบริการในตู้เติมเงินที่มีมากกว่า 61 รายการ ตลอดจนการจัดโปรโมชันส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นยอดการใช้ให้มากขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทยังมีรายได้จากช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น รายได้จากการรับชำระบิลค่าสินค้าและบริการต่างๆ รายได้จากการโฆษณาจากพันธมิตรที่ไว้วางใจด้วยจำนวนผู้ใช้บริการ “ตู้บุญเติม” เฉลี่ย 1.3 ล้านรายการต่อวัน ไม่ว่าจะเป็นจากบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) ยูนิลีเวอร์ น้ำดื่มช้าง ไอศกรีมวอลล์ ยูไนเต็ดฟูดส์ น้ำดื่มสิงห์ ที่เป็นอีกช่องทางที่ช่วยผลักดันให้รายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นตามลำดับ
“ในไตรมาส 3 ผลการดำเนินงานเติบโตได้เป็นที่น่าพอใจ การขยายจำนวน “ตู้บุญเติม” เติบโตได้ดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยจากโมเดลแฟรนไชส์ที่บริษัทใช้ ทำให้ตัวแทนบริการทั่วประเทศขยายตู้ได้อย่างแข็งแกร่ง และการหาพื้นที่ใหม่ๆ ด้วยการร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งตู้ในสาขาของ บมจ.ศรีสวัสดิ์ และสาขาในปั๊มน้ำมัน PT ที่ช่วยให้ตู้เติมเงินบุญเติมสามารถเข้าถึงผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ด้วยความเป็นเครือข่ายของตู้บุญเติม ทำให้บริษัทสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ โปรแกรมสะสมแต้ม (loyalty program) ที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการสะสมแต้มเพื่อนำมาใช้เป็นสิทธิในการชิงทองคำ แลกเสื้อบุญเติม และแลกเครดิตเติมเงินอีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “ตู้บุญเติม” ของบริษัทมีความแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ และจะทำให้ปีนี้บริษัทมียอดเติมเงินทั้งปีที่ 15,000 ล้านบาทตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสมชัย กล่าว
สำหรับบุญเติม เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ที่ให้บริการเติมเงิน และรับชำระบิลค่าสินค้าและบริการนั้น ปัจจุบันติดตั้งเพื่อให้บริการแล้วกว่า 700 จุด และมีแผนขยายการให้บริการให้มากขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดเพื่ออำนวยความสะดวกในพื้นที่ห่างไกล ขณะเดียวกัน บริษัทได้เพิ่มสินค้าใหม่ 2 รายการ ได้แก่ เครื่องชั่งน้ำหนักที่ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพของตู้เติมเงินบุญเติมด้วยการเพิ่มเครื่องชั่งน้ำหนักเข้าไปที่ฐานตู้ โดยได้มีการติดตั้ง และให้ผู้ใช้ทดลองใช้ฟรี และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีสินค้าตู้กดน้ำดื่มสะอาด (RO) ที่สามารถให้บริการเติมเงินอื่นๆ ได้ เข้ามาทำตลาดด้วยโอกาสความต้องการบริโภคน้ำดื่มที่สะอาด ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่จะเพิ่มรายได้ในอนาคต
นายสมชัย กล่าวว่า บริษัทยังคงยึดการดำเนินการแบบรอบคอบ และดำเนินการตามแผนการหารายได้ 5 ช่องทาง (Digital Retail Channel) เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัท รวมถึงพยายามหาโอกาส และช่องทางการหารายได้ใหม่ๆ หรือบริการภายในตู้เติมเงินที่เป็นความต้องการของผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการให้มากที่สุด และเพื่อยืนยันความเป็นผู้นำช่องทางการชำระเงินที่มีเครือข่ายมากที่สุดในประเทศไทย
