xs
xsm
sm
md
lg

เผยจีนจัดหนักแพกเกจกระตุ้น ศก. แลกหมัดสหรัฐฯ กดดันเฟดไม่กล้าขึ้น ดบ. จับตาเม็ดเงินไหลเข้าเอเซีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“บล.คันทรี่ฯ” มั่นใจดัชนีหุ้นไทยปีนี้แตะ 1,503 จุด หลังจีนจัดหนักแพกเกจกระตุ้น ศก. แลกหมัดสหรัฐฯ กดดันเฟดไม่กล้าขึ้น ดบ. จับตาเม็ดเงินไหลเข้าเอเซีย “กสิกรฯ” เชื่อ ศก.ไทยฟื้นตัว Q4 ปีนี้แน่นอน

นายรณกฤต สารินวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) คันทรี่ กรุ๊ป (CGS) เปิดเผยว่า แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,503 จุด หลังจากคลายความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ภาวะตกต่ำ ซึ่งทางการจีนได้เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการอัดเงินเข้าระบบอินเตอร์แบงก์ จํานวน 1.4 ล้านหยวน และเตรียมทํามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ขายพันธบัตรสหรัฐฯ เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงได้ประกาศให้กองทุนบําเหน็จบํานาญที่มีขนาด 3.5 ล้านล้านหยวน สามารถวางเกณฑ์การเข้าลงทุนในหุ้นจีนได้ 30%

อย่างไรก็ตาม หลังจากจีนออกแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทําให้ทั้งภูมิภาคเอเชียกลับมาได้เปรียบทางการค้า และทําให้อเมริกาต้องเผชิญความท้าทายด้านเศรษฐกิจที่อาจชะลอตัวลงในอีก 6 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ตัดสินใจคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% ต่อไป เนื่องจากคาดว่าหากขึ้นดอกเบี้ยจะส่งผลให้เดินนโยบายผิดทาง และเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะทรงตัวมากกว่าฟื้นตัว

ทั้งนี้ ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง และมีความเสี่ยงมากขึ้น จึงเร็วเกินไปที่จะรีบขึ้นดอกเบี้ย และจะทําให้เม็ดเงินลงทุนอาจไหลออกมายังภูมิภาคเอเชีย แต่ทั้งนี้ได้เปิดช่องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเล็กน้อยในช่วงต่อไปของปีนี้

นายพงศ์พิเชษฐ์ นานานุกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย กล่าวว่า คาดการณ์เศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับมาฟื้นตัวได้ดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้ในปีหน้า จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล เช่น การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ การผลักดันโครงการทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เน้นช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และเกษตรกร รวมถึงการออกมาตรการส่งเสริมกลุ่มธุรกิจและอุตสาหกรรมรายย่อย (เอสเอ็มอี) ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในด้านการใช้จ่าย และการลงทุนภาคเอกชนให้กลับมา

ขณะที่นโยบายผ่อนคลายทางการเงินของไทยที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 1.50% ทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นมีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับตราสารหนี้

นอกจากนี้ ตลาดทุนยังได้รับปัจจัยภายนอกมาจากสภาพคล่องในตลาดการเงินโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง จากการดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางหลักๆ ของโลก เช่น ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน เหล่านี้จึงเป็นปัจจัยบวกที่สนับสนุนการลงทุนในหุ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น