ตามที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.3/2555 ที่อัยการสูงสุดเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จำเลยที่ 1 กับพวกรวม 27 คน ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ความผิดต่อ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดพนักงานในองค์กรหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2502 ความผิดต่อธนาคารพาณิชย์ พ.ศ.2505 ความผิดต่อ พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 และความผิดต่อ พ.ร.บ. บริษัทมหาชน พ.ศ.2535 นั้น บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด ในฐานะจำเลยที่ 18 ถูกพิพากษาให้มีความผิดให้ลงโทษให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 26,000 บาท ซึ่งจำนวนเงินค่าปรับดังกล่าว ทางบริษัทได้ดำเนินการจ่ายค่าปรับต่อศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และศาลยังตัดสินให้ทางบริษัทร่วมกันคืนเงิน 10,004,467,480 บาท (หนึ่งหมื่นสี่ล้านสี่แสนหกหมื่นเจ็ดพันสี่ร้อยแปดสิบบาทถ้วน) แก่ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB นั้น
นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท เอคิว เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ AQ ยืนยันว่า กรณีดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด พร้อมชี้แจงว่า คดีนี้ทางผู้กู้ คือ บริษัท โกลเด้น อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (จำเลยที่ 18) มีที่ดินจดจำนองที่เป็นหลักประกัน จำนวน 4,323 ไร่ 1 งาน 55.90 ตารางวา มูลค่าตลาดเท่ากับ 12,321,000,000 บาท (หนึ่งหมื่นสองพันสามร้อยยี่สิบเอ็ดล้านบาทถ้วน) โดยทางบริษัทฯ ได้ว่าจ้างบริษัท ไนท์แฟรงค์ ชาร์เตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประเมินที่ได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.ได้ประเมินราคาเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2555 ซึ่งมูลค่าหลักทรัพย์ดังกล่าวเพียงพอที่จะชำระหนี้ได้
“มูลค่าดังกล่าวเป็นราคาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว มองว่าด้วย ทำเล ที่ตั้ง และศักยภาพของที่ดินดังกล่าว ราคา ณ ปัจจุบันน่าจะสูงกว่า 1.2 หมื่นล้านไปแล้ว ซึ่งหากธนาคารผู้เสียหายสามารถขายหลักประกันดังกล่าวได้ ทางบริษัทก็ไม่จำต้องรับผิดในการคืนเงินจำนวนดังกล่าวแล้ว” นายวิรัตน์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะจัดให้มีการประเมินที่ดินดังกล่าวใหม่เป็นปัจจุบันเพื่อให้ทราบถึงมูลค่าที่แท้จริงในปัจจุบัน เพื่อเป็นฐานข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อบริษัทในการพิจารณาแก้ปัญหาในอนาคต ซึ่งหากมีความคืบหน้าประการใดทางบริษัทจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง