รวบ นศ.อยุธยามือโพสต์วางระเบิดป่วนกรุงเก่า ถึงกับน้ำตาตกเมื่อโดนข้อหาหนัก

พระนครศรีอยุธยา - รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกับตำรวจพระนครศรีอยุธยา เข้าสอบ 2 นักศึกษามือโพสต์วางระเบิดป่วนเมืองอยุธยา เจ้าตัวสารภาพทั้งน้ำตาทำไปเพราะความคึกคะนอง ถึงกับน้ำตาตกเมื่อโดนข้อหาหนัก

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (22 ส.ค.) ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.ศานิตย์ มหถาวร รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.ภูวดิท ชนะคชภัทร รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และ พ.ต.อ.สมบัติ ชูชัยยะ รอ งผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันสอบสวน นายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผู้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กป่วนขู่วางระเบิด ห้างสรรพสินค้าโลตัส จำนวนหลายจุด โดยข้อความระบุว่า “จุดต่อไปคืออยุธยา กูได้วางไว้ที่โลตัส ชั้นใต้ดิน 1 ลูก หน้าโรงหนัง 2 ลูก ทางเข้า 3 ลูก ที่ตลาดเจ้าพรหม 3 ลูก โรงเรียนอนุบาลในฝัน 2 ลูก” จนมีการแชร์ต่อไปทั่วสร้างความตื่นตระหนกให้แก่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องเข้าตรวจสอบตามจุดต่างๆ

นายเอ ยอมรับสารภาพทั้งน้ำตาว่า ตนได้แอบเอาโทรศัพท์ของเพื่อนแล้วใช้เฟชบุ๊กของเพื่อนพิมพ์ข้อความขู่ว่างระเบิดตามจุดต่างๆ แล้วโพสต์ข้อความไปตามเพจต่างๆ ทำไปด้วยความคึกคะนองไม่คิดว่าผลกระทบจะรุนแรงมากขนาดนี้ ต้องขอโทษเจ้าหน้าที่ตำรวจ และประชาชนด้วย และขอฝากเตือนคนที่คิดโพสต์ข้อความ หรือแชร์ข้อความขู่วางระเบิด หรือป่วนเมือง อย่าทำเพราะเป็นการทำลายประเทศไทย ซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายลงไป และเป็นการกระทำผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.ศานิตย์ กล่าวว่า ฝากเตือนไปยังผู้ที่โพสต์ข้อความ หรือสร้างสถานการณ์ต่างๆ ในเรื่องของการระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีเพราะถือว่าเป็นการสร้างความวุ่นวายให้แก่ประชาชน และซ้ำเติมสถานการณ์ให้เลวร้ายมากขึ้น เจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปตรวจสอบ เราคนไทยต้องร่วมกันสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ต่างประเทศ ต้องสามัคคีกัน

“เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีต่อ นายเอ ตามมาตรา 384 ผู้ใดแกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ ต้องระวางโทษจำคุกหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นำเข้าคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน โดยส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” รอง ผบช.ภ.1 กล่าว