xs
xsm
sm
md
lg

ตลท. เผยผลประกอบการ บจ.ไทยยังเติบโตได้ 64% ดีกว่ากลุ่มอาเซียน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการ ตลท. ยันพื้นฐานเศรษฐกิจไทยแกร่ง แม้ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงมาก และต่างชาติปรับพอร์ตในภูมิภาค แต่ผลประกอบการ บจ.ไทยยังเติบโตได้ 64% ดีกว่ากลุ่มอาเซียน เผยตั้งแต่ต้นปี 58 ต่างชาติขายหุ้นไทยไปแล้ว 7-8 หมื่นล้าน แต่ยังถือในมือกว่า 32% หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนผู้ลงทุน ชี้เป็นโอกาสดีในการทยอยลงทุน เพราะ บจ.ยังจ่ายปัจผลสูงถึง 5% พร้อมหนุนการทำงานทีม ศก.ชุดใหม่

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยถึงการที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงเป็นอย่างมากเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ถึง 64 จุด โดยยอมรับว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างประเทศมีการทบทวนการลงทุนในตลาดหุ้น และแม้ว่านักลงทุนจะลงทุนในตลาดหุ้นอาเซียน แต่ส่วนใหญ่จะเข้าลงทุนในตลาดหุ้นที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศไทย เช่น อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ทำให้ปัจจัยหลักของดัชนีตลาดหุ้นไทยมาจากปัจจัยภายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่พื้นฐานเศรษฐกิจของไทยยังคงแข็งแกร่ง รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังคงขยายตัวร้อยละ 6.4 ซึ่งดีกว่าบริษัทจดทะเบียนในกลุ่มอาเซียนที่มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 4.5

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตั้งแต่ต้นปี 2558 นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นไทยแล้ว 70,000-80,000 ล้านบาท แต่ยังคงมีนักลงทุนต่างประเทศที่ยังคงถือหุ้นไทยถึงร้อยละ 32 หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของกลุ่มผู้ลงทุนในปัจจุบัน ดังนั้น ในภาวะที่ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงจึงเป็นโอกาสของนักลงทุน เช่น กลุ่มพนักงานประจำที่จะลงทุนในกองทุนอาร์เอ็มเอฟ และแอลทีเอฟระยะยาว ส่วนผู้ที่ลงทุนในหุ้นอยู่แล้วก็ควรที่จะประเมินจากสถานการณ์ และเป็นโอกาสที่จะลงทุนยาวได้ เพราะยังมีบริษัทจดทะเบียนที่ยังมีการจ่ายเงินปันผลมากกว่าร้อยละ 5

ส่วนการที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ และคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจชุดใหม่เข้าทำหน้าที่นั้น ทาง ตลท.พร้อมให้การสนับสนุนและทำงานร่วมกับรัฐบาล และเห็นว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องออกกองทุน หรือมาตรการพยุงหุ้น รวมทั้งลักษณะกองทุนวายุภักษ์ ซึ่งนายสมคิด เคยออกในสมัยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เพราะปัจจุบันนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมีหลายกลุ่ม และนักลงทุนมีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นกว่าอดีต รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ควรที่จะมีความเข้มแข็งด้วยตัวเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น